วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เชิญหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์ ถวายแด่ พระพรหมวชิราทร (โสภณ โสภณจิตโต) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร และเจ้าคณะภาค 13 วัน ณ พระอุโบสถวัดเทวราชกุญชร เขตดุสิต กรุงเทพฯ
พระพรหมวชิราทร (โสภณ โสภณจิตโต)
จากนั้น พระพรหมวชิราทรได้มอบเหรียญที่ระลึกองค์เทวราชเนรมิตแก่ผู้มีเกียรติร่วมพิธีเชิญหิรัญบัฏ พัดยศ ผ้าไตร และเครื่องประกอบสมณศักดิ์
ปัจจุบันพระพรหมวชิราทรสิริอายุ 62 ปี พรรษา 40 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร เขตดุสิต กรุงเทพฯ และเจ้าคณะภาค 13
มีนามเดิม โสภณ พุ่มพวง เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เม.ย.2506 ที่ ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
ช่วงวัยเยาว์ศึกษาชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนกาหลง จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากนั้นเข้าพิธีบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อน เมื่ออายุ 13 ปี ที่วัดกาหลง เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2519 มีพระครูสมุทรธรรมสุนทร หรือหลวงพ่อสุด สิริธโร เจ้าอาวาส เป็นพระอุปัชฌาย์
อยู่วัดกาหลง 2 ปี จึงย้ายมาอยู่ที่วัดหัวลำโพง เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม
ครั้นอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2528 มีพระครูนครเขตบริรักษ์ (สุวิทย์ ฐิตวิชโช) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูบวรวุฒิกิจ (ประชุม สุจิตโต) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูวิสิฐวุฒิกร (วิชิต ฐิตชิโต)
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2544 ได้รับแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร พระอารามหลวง
สอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค และสำเร็จปริญญาโท (ศศ.ม.) สาขาวิชานโยบายและการวางแผนสังคม มหาวิทยาลัยเกริก และดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ลำดับงานปกครอง พ.ศ.2544 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร พ.ศ.2549 พระอุปัชฌาย์ วิสามัญ พ.ศ.2557 รองเจ้าคณะภาค 14
พ.ศ.2564 เจ้าคณะภาค 13
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2541 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีวชิรโมลี พ.ศ.2546 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสุธี พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพคุณาภรณ์
วันที่ 14 พ.ย.2565 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวชิราภรณ์
ล่าสุด วันที่ 14 ก.พ.2568 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ในราชทินนามที่ พระพรหมวชิราทร
มุ่งมั่นในการพัฒนาวัดให้งดงามสมกับเป็นพระอารามหลวง ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาพระอารามจนแล้วเสร็จตามโครงการบูรณะพระอาราม เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 72 พรรษา ปี 2547
นอกจากนี้ ยังได้สร้างพิพิธภัณฑ์สักทองวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ด้านพระพุทธศาสนา อนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติในด้านสถาปัตยกรรม
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา ปี 2550
นอกจากนี้ ยังร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำโครงการผลิตสารคดีพระราชกรณียกิจด้านพระพุทธศาสนาสิ่งแวดล้อมและโครงการในพระราชดำริเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 83 พรรษา 5 ธันวาคม 2553 และเป็นวันครบ 60 ปีแห่งพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 5 พฤษภาคม 2553 ในชื่อ “สารคดีเฉลิมพระเกียรติ ชุดพ่อหลวงของเรา” และจัดพิมพ์หนังสือเฉลิมพระเกียรติชุด “พ่อหลวงกับพระพุทธศาสนา”
ผลงานและเกียรติคุณที่ปรากฏ ทำให้เป็นที่ไว้วางใจของพระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่และเป็นที่เคารพนับถือของคณะสงฆ์ผู้ใต้ปกครอง