ชัชชาติ เผยก้าวสู่วันที่ 10 รับไม่พบสัญญาณชีพแล้ว โอกาสรอดชีวิตน้อย อาจเจอผู้เสียชีวิตมากขึ้น ยังใช้แผนเดิมถ้าเจอโพรงใหญ่ ส่งสุนัข K9 เข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 เม.ย.68 ที่ตึกก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ริมถนนกำแพงเพชรสอง ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหายและการรื้อถอนซากอาคารสตง.ที่พังถล่ม
นายชัชชาติ กล่าวว่า ตอนนี้เป็นไปตามยุทธิวิธรในการนำเครื่องจักรหนักเข้าทำงาน โดยจุดที่คาดว่าจะพบผู้สูญหายและผู้เสียชีวิตคือบริเวณโซน C ซึ่งเมื่อคืนพบร่าง 2 ร่าง และช่วงเช้าพบชิ้นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้เริ่มเห็นโพรงที่เชื่อมกันระหว่างโซน B และโซน C แล้ว เพราะ 2 โซนนี้เป็นจุดที่เข้าออกของคนงาน เนื่องจากเวลาคนงานเข้าออกจะเข้าออกจากตึกหลัง ที่เป็นที่นั่งของสำนักงาน
โดยจะมีบันไดที่เชื่อมกัน เพื่อให้คนงานเข้าออกทั้งเช้า เที่ยง เย็น จึงคาดการณ์ว่าจะมีโพรงด้านล่างอยู่บริเวณโซนนี้ โดย 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่พบเพิ่มเติม ก็อยู่บริเวณนี้เช่นกัน จึงคาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการพยายามจะหนีไปทางออฟฟิต
นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อใช้โปรแกรมและเทคโนโลยีประมวลข้อมูลว่า ใครอยู่ชั้นไหนบริษัทอะไร ก็จะทำให้ข้อมูลชัดเจนทำงานได้ง่ายขึ้น แต่ปัญหาหลักคือการเอาเนินด้านบนลงของซากปรักหักพังออก เพราะมีความไม่ปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน
ดังนั้นการจะเอาออกต้องทำทางเข้าไปในโซน B จึงตัดอาคารด้านหน้าออกบริเวณโซน A ออก เพื่อเปิดทางให้เอารถขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เครื่องจักรเอื้อมไปจัดกองกองด้านบนได้
และสามารถนำเครื่องจักรใหญ่เข้ามาได้แล้ว ทั้ง 2 ทางคือด้านหน้า และด้านข้าง ที่ตัดเจาะทางพื้นที่ของรถไฟ เพราะมีเศษเหล็กจำนวนมากไปด้านหน้าไม่ได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ก็ดีขึ้น เพราะเริ่มเอาจุดที่มีความไม่มั่นคงออก และเริ่มเข้าพื้นที่ได้มากขึ้น โดยคาดว่าน่าจะพบผู้สูญหาย
“หากพูดตามความจริงโอกาสรอดชีวิตจะน้อยลง ผู้เสียชีวิตจะมากขึ้น สถานการณ์จะเปลี่ยนจากวิ่งสปริ้นเป็นวิ่งมาราธอน คือการกู้ชีพเหมือนการวิ่งแข่งร้อยเมตร แต่ตอนนี้เป็นเกมยาว เหมือนการวิ่งมาราธอน ต้องพยายามรักษาความต่อเนื่อง ดูแลคนที่ทำงานให้อยู่กับเราได้ ทีมงานให้เหมาะสมทั้งการบริการ และการปฏิบัติงานด้านใน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
นายชัชชาติ ยอมรับว่า จนถึงขณะนี้ไม่พบสัญญาณชีพ และไม่พบสัญญาณการขอความช่วยเหลือแล้ว ทั้งนี้การนับตัวเลขผู้เสียชีวิต ให้รอทางตำรวจยืนยัน เพื่อจะได้ไม่สับสน
ส่วนแผนการดำเนินการหลังจากนี้ ที่ครบ 9 วันกำลังจะเข้าสู่วันที่ 10 ก็ยังใช้แผนเหมือนเดิม เพราะยังคงมีความหวัง ยังมีทีมกู้ภัยอยู่ ดังนั้นถ้าเจอโพรงใหญ่ก็จะเอาทีมเรสคิวเข้าไปดู เริ่มจากสุนัข K9 เข้าไปตรวจสอบ ว่ามีสัญญาณผู้รอดชีวิตอยู่หรือไม่ และดูพิกัดและคนเสียชีวิต เพราะสุนัข K9 จะทำให้เจ้าหน้าที่กำหนดเป้าได้มากขึ้น แล้วสลับกับการให้เครื่องจักรหนักทำงาน 5-6 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ยอมรับว่า เครื่องจักรมีปัญหาบ้างเรื่องการบำรุงรักษา จึงสั่งให้เตรียมอุปกรณ์ซ่อมหน้างาน เพราะมีการใช้งานอย่างหนัก และจะเดินหน้าต่อ อุปสรรคก็ยังไม่มีอะไร เป็นการบริหารจัดการภายใน และบริหารจัดการได้ดีขึ้น ส่วนทีมกู้ภัยแคนาดามาเมื่อวาน จะดูว่าปรับแผนยังไงให้เข้ากันได้บ้าง
นายชัชชาติ ยังระบุด้วยว่า หน้าที่ของกทม.ดูแลอุบัติภัย ส่วนการตรวจเป็นหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กทม.ไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง แต่แค่อำนวยความสะดวกให้กับการปฏิบัติงานเวลาเข้าพื้นที่เท่านั้น
โดยระหว่างสัมภาษณ์ มีเป็นตัวแทนแรงงานจากไทย เมียนมา และกัมพูชา มายื่นจดหมายเปิดผนึกข้อเรียกร้องเพื่ออยากให้รายงานตัวเลขให้ชัดเจนขึ้น ซึ่งทางผู้ว่ากทม.รับเรื่องไว้ พร้อมกับให้กำลังใจกลับไปด้วย