จ่อออกหมายจับ คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองกลางเมืองหาดใหญ่ ผบช.ภ.9 สั่งปิดกั้นชายแดน สกัดหนีออกนอกปท.
ความคืบหน้าเหตุปล้นร้านทอง ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลาประมาณ 11.55 น. วันที่. 8 เม.ย.2568 พ.ต.ท.สถาพร สุขสว่าง ร้อยเวร สภ.หาดใหญ่ หลังเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 50-60 ปี ใช้อาวุธปืนสั้น จี้ชิงทรัพย์ ห้างทองไทยอุดม 2 ถ.มนตรี 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
จากการตรวจสอบพบว่า มีสร้อยคอทองคำถูกชิงไปทั้งหมด รวม 69 เส้น ประกอบ ด้วย 1.สร้อยคอทองคำ 1บาท 19 เส้น น้ำหนัก 19 บาท 2.สร้อยข้อมือทองคำ 2 บาท 12 เส้น น้ำหนัก 24 บาท 3.สร้อยคอทองคำ 2 บาท 19 เส้น 38 บาท 4.สร้อยข้อมือทองคำ 3 บาท 19 เส้น 57 บาท รวมน้ำหนักทองคำที่ถูกขโมยไป 138 บาท มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท
อ่านข่าว ด่วน! คนร้ายบุกเดี่ยว ชิงทองร้านดังกลางเมืองหาดใหญ่ กวาดทอง 184 บาท สูญ 9 ล้าน
เมื่อวันที่ 8 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังไล่ล่าตัวคนร้าย โดยได้ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียงและบริเวณรอบนอก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบจังหวัดสงขลา เจ้าที่ตำรวจสืบภาค9 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนหาดใหญ่ ตำรวจกองปราบ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ชุดปราบปรามการโจรกรรมรถสภ. หาดใหญ่ ชุดตะวันหาดใหญ่ และอีกหลายหน่วยงาน เนื่องจากครั้งนี้เป็นการจี้ชิงร้านทองครั้งใหญ่ในรอบหลายปี ซึ่งครั้งล่าสุดเกิดเหตุจี้ชิงทองครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2564
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทราบตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว รวมทั้งพบรถผู้ต้องหาจอดอยู่ภายใน ถนนทิพรัตน์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งอยู่ด้านหลังตลาดกิมหยง ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ HONDA DREAM สีแดง ธ 3482 ยะลา พร้อมทั้งเจอเสื้อกับกางเกงที่คนร้ายใช้สวมใส่ขณะก่อเหตุ ซึ่งจุดที่เจอรถคนร้ายอยู่ห่างจากร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุปล้นทองประมาณ 300 เมตรเท่านั้น
เบื้องต้น ตำรวจระบุว่า จากการค้นประวัติคนร้ายรายนี้เคยก่อเหตุกับร้านทองตรงข้ามกัน เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมตรวจ DNA อนุมัติหมายศาลเพื่อออกหมายจับต่อไป
เมื่อเวลา 17.20 น. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยตนเองได้พูดคุยกับเจ้าของร้านหลังจากนั้นไปดูจุดที่คนร้ายได้จอดรถทิ้งไว้ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เปิดเผยว่าในเบื้องต้นตรวจที่เกิดเหตุทราบว่าคนร้ายมาคนเดียวขับจักรยานยนต์ สวมหมวกสวมแมสปิดบังใบหน้าพื้นที่เศรษฐกิจ เข้ามาแสดงตนว่ามีอาวุธ เนื่องจากพนักงานในร้านเป็นผู้หญิงมีอยู่ 4 คน เห็นก็กลัวออกไปไม่ได้ทำอันตรายอะไร ใช้เวลาประมาณ สัก 1 นาทีเอาของไปใน
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าประมาณ 50 เส้น น้ำหนักประมาณ 100 กว่าบาท หลังจากนั้นขับขี่จักรยนต์ กำลังจะขึ้นรถ พนักงานวิ่งตามมาแล้วกดสัญญาณเตือนภัยแจ้ง คนร้ายขับรถหนีไป ตำรวจแจ้งสกัดกันทุกจุด คนร้ายขับไปแล้วทิ้งรถจักรยานยนต์ไว้ในซอยประมาณ 350 เมตร แล้วทิ้งจักรยานยนต์ไว้ มีการเปลี่ยนเสื้อแล้วเดินเข้าไปตลาด กำลังติดตามตัว
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ กล่าวว่ามีการปิดกั้นชายแดน คนร้ายน่าจะอยู่ในพื้นที่ ในเบื้องต้นมีความคืบหน้าไปมาก ดูจากกล้องวงจรปิดและพฤติกรรมดูจากการสอบสวน คาดว่ายังไม่หนีออกไปยังมาเลเซีย ทางคดีมีความคืบหน้าเยอะ คนร้ายน่าจะไม่ผิดตัว รองพยานหลักฐานก่อน เห็นภาพคนร้ายมีประวัติอยู่แล้ว ผมได้กำชับมาตรการระวังป้องกันร้านทอง ธนาคาร ธุรกิจทั้งหมด ช่วงนี้ด้วยภาวะเศรษฐกิจและด้วยราคาทองคำสูงและใกล้ช่วงเทศกาลกำชับตลอด
เนื่องจากสภาพของร้านทองเยอะ ไปติวเข้มงวดร้านทอง มีการป้องกันไว้แล้วมีกล้องวงจรปิดมีการซักซ้อมแผน ต้องเพิ่มความเข้ม ราคาทองสูงมาก เตือนมาตลอด ผบ.ตร.รอง ผบ.ตร.แห่งชาติ ได้กำชับและย้ำเตือนมาตลอด ทางคดีจะเร่งติดตามคนร้ายออกหมายจับ มาตรการป้องกันต้องมีการประชุมเจ้าหน้าที่ เราวางมาตรการออกตรวจ กล้องวงจรปิด ร้านทองต้องป้องกันตัวเองด้วย