พี่ชายใช้ไม้ฟาดน้องดับป้องกันไถเงินพ่อเสพยาพ่อร้องไห้สงสารลูกคนโตติดคุก 
GH News April 15, 2025 07:08 PM

พี่ชายยใช้ไม้ฟาดดับน้องดับ เพื่อปกป้องพ่อและแม่หลังถูกลูกชายคนเล็กไถเงินซื้อยาบ้าเสพ วงจรปิดจับภาพชัดคนตายควงมีดอาละวาดไปทั่วหมู่บ้าน พ่อเปิดใจสงสารลูกคนโตต้องติดคุก

วันที่ 15 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดเหตุพี่น้องทำร้ายร่างกายกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตที่บ้าน หมู่ 6 บ้านศรีบุญเรือง ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (14 เม.ย.68) เวลา 18.00 น.หลังรับแจ้ง ร.ต.อ.ศราวุธ ชมภูธร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปฐวี  ก้อนวิมล ผกก.สภ.เพ็ญ,กู้ภัยและกู้ชีพ อบต.นาพู่ พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนนายวรเดช   หรือเตี้ย อายุ 44 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ที่หลังบ้าน สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต สวมใส่กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน เสื้อยืดสีน้ำเงิน บริเวณหน้าผากมีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็ง ใกล้ศพพบท่อนไม้ยาวประมาณ 1 เมตรตกที่เกิดเหตุ

 

ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือนายประหยัด  หรือหยัด อายุ 46 ปีไม่หนีไปไหนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ฯ โดยเจ้าตัวถึงกับร้องไห้ออกมา บอกว่า ที่ผมต้องฆ่าน้องชายเพราะน้องชายมาไถเงินจากพ่อและแม่เพื่อไปซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อนเกิดเหตุถือมีดจะทำร้ายพ่อและแม่เพราะขอเงินไม่ได้ผมจึงตัดสินใจฆ่าน้องชายให้จบเรื่องไม่งั้นพ่อกับแม่คงถูกไถเงินและทำร้ายต่อไปแน่ ต่อมาตร.จึงควบคุมตัวมายัง สภ.เพ็ญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าญาติๆ ได้เดินทางมาให้กำลังใจกับเจ้าของบ้าน ส่วนศพนายเตี้ยได้นำไปฝังที่ป่าช้าเรียบร้อยแล้ว โดยนายหนูจร อายุ 68 ปี พ่อของนายเตี้ยคนตายและนายประหยัด คนก่อเหตุ พาไปดูจุดที่พบศพนายเตี้ยอยู่หลังบ้าน โดยทราบว่าก่อนลูกชายคนโตจะทำร้ายน้องชายได้เมาเหล้ามาจากเที่ยวสงกรานต์และมาขอเงินพ่อแต่พ่อไม่มีให้จึงถือมีดจะทำร้าย นายประหยัดโมโหที่น้องชายจะทำร้ายพ่อจึงถือไม้ทุบศีรณะนายเตี้ยเสียชีวิตดังกล่าว

นายหนูจร บอกว่า ตนเองมีลูกชาย 2 คนคือนายหยัดคนโตและนายเตี้ยคนเล็ก ปกตินายประหยัดจะเป็นคนทำงานหาเงินมาให้พ่อแม่ใช้ค่าอยู่ค่ากิน ค่ากับข้าว ส่วนนายเตี้ยคนเล็กไม่ทำอะไร มีแต่จะผลาญพ่อและแม่ สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านเอาไปขายหมดเพื่อเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ ก่อนเกิดเหตุวานนี้นายเตี้ยก็ไปกินเหล้าวันสงกรานต์ตกเย็นก็มาขอเงินพ่อและแม่  ตนก็ไม่มีเงินให้ ทำให้นายเตี้ยโมโหถือมีดที่อยู่ในมือจะทำร้ายพ่อ นายประหยัดพี่ชายคนโตโมโหที่พ่อถูกไถเงินจากน้องชายจึงถือไม้ไปฟาดน้องชายตายหลังบ้าน

"ผมสงสารลูกคนโต เขาเป็นคนหาเงินให้พ่อแม่ใช้ ดูแลพ่อแม่ ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปประกันตัว ดูสภาพบ้านพ่อก็อยู่แบบนี้ ส่วนนายเตี้ยไม่ทำการทำงาน ติดยามา10 กว่าปีไถแต่เงินพ่อและแม่ หากไม่ให้ก็ขู่ทำร้าย ต้องหาเงินให้เช้า สาย บ่าย เย็น ครั้งละ 40-50 บาท ผมก็ไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน มีแต่ลูกชายคนโตที่ไปทำงานรับจ้างทั่วไปป้อนเงินให้พ่อกับแม่ มีลูกชายสองคน คนหนึ่งต้องมาตาย อีกคนต้องติดคุกตอนนี้เหมือนไม่มีลูกแล้ว ใจผมตอนนี้แตกสลายสงสารลูกชายคนโตต้องมาติดคุก หัวอกคนเป็นพ่อพูดไปก็กลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่และสะอื้นไห้ตลอดเวลา"นายหนูจร กล่าว

ขณะที่มีภาพวงจรปิดขณะที่นายเตี้ยเมาเหล้าถือมีดไปที่ร้านค้า พอถึงร้านค้าได้ควงมีด 2 รอบจากนั้นก็ไปสั่งเหล้าขาวหนึ่งเป๊ก ก๊งเหล้าเสร็จก็เดินออกจากร้านไป แล้วไปโวยวายกับชาวบ้านที่เล่นน้ำสงกรานต์ในถนนหมู่บ้าน ก่อนจะกลับเข้าไปบ้านเพื่อไปขอเงินพ่อไปซื้อยาบ้า พอพ่อไม่ให้ถือมีดจะทำร้ายพ่อจนถูกพี่ชายใช้ไม้ฟาดเสียชีวิตดังกล่าว

 

ด้านน.ส.น้ำฝน เจ้าของร้านขายของชำ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุนายเตี้ยท่าทางเมาหนักถือมีดเข้ามาซื้อเหล้า 1 เป๊ก ตอนนั้นก็ตกใจมาก ก็กลัวอยู่ เขาขอซื้อเหล้า 1 เป๊ก พอเขาเป๊กเสร็จแล้วเขาก็ออกไปจากร้านควงมีดไปด้วย ยังดีที่เขาไม่ได้ทำร้ายใครในบ้าน ส่วนตัวสงสารนายประหยัดพี่ชายคนตายเพราะเขาเป็นคนหาเลี้ยงพ่อแม่ ส่วนน้องชายติดยาจนพ่อและแม่เอือมระอา

ส่วน นายวาล อายุ 67 ปีเพื่อนบ้านอีกคน บอกว่า ก่อนที่นายเตี้ยจะถูกพี่ชายทำร้ายจนเสียชีวิต นายเตี้ยและนายประหยัดพี่น้องสองคนก็มาสังสรรค์สงกรานต์ที่บ้านพ่อนี่หละ ตอนนั้นก็ไม่เห็นเขามีเรื่องหรือทะเลาะกันอะไรกัน เห็นสนุกสนานกินดื่มปกติ ไม่นานนายเตี้ยก็เดินออกไป ส่วนมีดตนเองไม่รู้นายเตี้ยเอามาจากไหน มาช่วงเย็นได้ยินข่าวว่านายเตี้ยถูกพี่ขายฆ่าตายก็ตกใจมาก สงสารครอบครัวนายหนูจร เพราะเขามีลูกสองคน คนโตเป็นคนหาเลี้ยงพ่อแม่ ส่วนนายเตี้ยก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ติดยาทำร้ายพ่อแม่ประจำหากไม่ให้เงินก็จะขู่ฆ่า ใจหนึ่งก็คิดว่าพ่อและแม่พ้นบ่วงกรรมแล้ว ผมสงสารแต่นายประหยัดที่ต้องมาติดคุก แต่เมื่อฆ่าคนตายก็ต้องรับกรรมไป 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.