พิชัย ถกผู้ว่าธปท. ยันไม่แตะทุนสำรอง คาดคุยมะกันสัปดาห์หน้า สะพัด กีรติ ไขก๊อก เอ็มดีทอท.
เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่กระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับการเดินทางไปเจรจากับสหรัฐอเมริกา เรื่องนโยบายภาษีศุลกากร ยืนยันว่าทางสหรัฐอเมริกาตอบรับแล้ว แต่ยังไม่ได้กำหนดวัน คาดว่าจะได้เจรจาภายในสัปดาห์หน้า โดยคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกาจะเป็นตัวแทนในการเจรจา พร้อมทั้งกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่จะไปเจรจาด้านพลังงาน รวมทั้งภาคเอกชนด้วย
นายพิชัย กล่าวว่า สำหรับการเจรจากับสหรัฐครั้งแรกนั้น เบื้องต้นจะเน้นเรื่องของการเพิ่มการค้าระหว่างไทยสหรัฐ โดยไทยนำเข้าสินค้าเพิ่ม ทั้งนำเข้าเพื่อบริโภคในประเทศและเพื่อส่งออก ดังนั้น ไม่ใช่การลดส่งออกหรือการขายสินค้าแน่นอน หากมีการทำการค้ากันมากขึ้นสัดส่วนที่สหรัฐขาดดุลไทยก็จะลดลง โดยสินค้าที่จะนำเข้าคือ สินค้าเกษตร และพลังงาน สินค้าเกษตรอาทิ ข้าวโพด กากถั่วเหลือง เพื่อนำมาผลิตอาหารสัตว์แปรรูปเพื่อส่งออกให้มากขึ้น ซึ่งได้หารือกับเกษตรกรไทยเรียบร้อยแล้ว
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนด้านพลังงาน จากผลของการหารือ ระหว่างกระทรวงการคลังกับ ปตท.ได้ข้อสรุปว่าประเทศไทย โดย ปตท.จะเสนอแผนการนำเข้าพลังงานจากสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยปี 2569 จะทำสัญญานำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) 1 ล้านตัน มูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ระยะสัญญา 15 ปี และนำเข้าก๊าซอีเทน 4 แสนตัน มูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งยังมีแผนระยะยาวจะมีการซื้อแอลเอ็นจีต่อเนื่อง ในอีก 5 ปีข้างหน้า แทนสัญญาที่จะทยอยสิ้นสุดลง
“นอกจากนี้ ยังมีการศึกษาเรื่องการนำเข้าแอลเอ็นจีจากสหรัฐ เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากประเทศไทยมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการกักเก็บแอลเอ็นจีอยู่แล้ว ทั้งนี้ การนำเข้าพลังงานจากสหรัฐถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีต้นพลังงานอยู่ในระดับที่ยังสามารถแข่งขันได้ รวมทั้งที่นำเข้ามานั้นเป็นสิ่งที่ไทยต้องลงทุนหรือนำเข้าอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาลงทุนตอนนี้” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ ได้หารือร่วมกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงผลกระทบต่อภาคการเงินไทย หลังจากที่สหรัฐอเมริกาออกมาตรการภาษีตอบโต้ เบื้องต้นเป็นการรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน และร่วมกันหามาตรการรองรับ
นายพิชัยกล่าวว่า ตลาดเงินของไทยถือว่าค่อนข้างนิ่ง เพราะมีลักษณะไม่เหมือนประเทศอื่น คือไม่มีเงินกองทุน แต่ไทยเราเอาเงินรวม มีศูนย์กลางการบริหารที่ ธปท. ส่วนวิธีการบริหารก็ไม่หวือหวา ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยก็ยังไม่ได้ขายดอลลาร์ออกไป แปลว่ายังคงมีความเชื่อมั่นต่อสหรัฐ
นายพิชัยกล่าวว่า ส่วนการจะต้องให้ ธปท.พิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปลายเดือนนี้ หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่พิจารณา เพราะสถานการณ์ในตอนนี้เรายังอ่านไม่ออก ประเทศใหญ่ๆ เองก็ยังชุลมุนกันว่าจะขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่การแทรกแซงค่าเงินนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่ทำกัน ต้องปล่อยไปตามกลไก
“ส่วนจะให้ ธปท.เอาเงินสำรองออกมาใช้หรือไม่นั้น ไม่ได้อยู่ในความคิด เพราะเงินสำรองที่มีนั้น เป็นตัวแบ๊กอัพสภาพคล่องการนำเข้าและส่งออก เวลารัฐบาลจะทำอะไร เราจะทำผ่านการเพิ่มงบประมาณมากกว่า”นายพิชัยกล่าว และว่า หลังจากที่สหรัฐออกมาตรการตอบโต้ ทำให้การปล่อยสินเชื่อไม่เข้มข้นเท่าที่ควร เพราะทุกฝ่ายก็หยุดดูว่าจะมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่าไหม เหมือนนาฬิกาหยุดเดิน เครื่องเดินไม่เต็มสูบ หลายๆ อย่างมีปัญหาเหมือนหยุดชั่วคราว ก็ต้องมอนิเตอร์กันต่อ
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า ช่วงก่อนเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ มีกระแสข่าวว่าทางกระทรวงคมนาคมจะมีการปรับเปลี่ยนกรรมการผู้อํานวยการใหญ่ (เอ็มดี) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) หรือ ทอท. ใหม่ โดยนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ ทอท.คนปัจจุบัน อาจจะยื่นลาออกจากตำแหน่งเร็วๆ นี้