โฮมโปร เขย่าวงการบ้านรับปี 68 ด้วยกลยุทธ์ใหม่ ที่เป็นมากกว่า ‘ขายสินค้า’ แต่ยกระดับทั้งองค์กรสู่การเป็น ‘Home Solution & Living Experience’ ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร พร้อมเดินหน้าขยายสาขาใหม่อีก 12 แห่งทั่วประเทศ ทั้งในรูปแบบโฮมโปร เมกาโฮม และ ‘ไฮบริดสโตร์’ เสริมแกร่งทุกเซกเมนต์ลูกค้าตั้งแต่เจ้าของบ้านไปจนถึงผู้รับเหมา โดยในช่วงกลางปีนี้ เตรียมเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘CHANG HomePro’ ที่จะเปลี่ยนทุกบ้านให้มี ‘ช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้านคุณ’ เรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
23 เม.ย. 2568 – นายวีรพันธ์ อังสุมาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกเรื่องบ้านในตลาดทุกวันนี้ มีการแข่งขันสูง ถือเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับว่าจะปรับตัวอย่างไรให้ตรงใจลูกค้า ซึ่งบริษัทเชื่อว่าการเข้าใจลูกค้าคือหัวใจของความสำเร็จ โฮมโปร “ไม่ใช่แค่ร้านค้าจำหน่ายสินค้าอีกต่อไป” แต่คือ “ศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร” ซึ่งความได้เปรียบเชิงโครงสร้างธุรกิจของโฮมโปรเกิดจากการมี 2 แบรนด์หลัก คือ “โฮมโปร” ที่จับกลุ่มลูกค้าบ้านเก่า-บ้านใหม่ กับ “เมกาโฮม” ที่จับกลุ่มลูกค้าช่างและผู้รับเหมา โดยล่าสุดเตรียมพัฒนาโมเดล “ไฮบริดสโตร์” ที่รวมทั้งสองไว้ในจุดเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสูงสุด รองรับทุกกลุ่มลูกค้าของบริษัท แต่สิ่งที่ทำให้โฮมโปรแตกต่างอย่างแท้จริงไม่ใช่แค่นี้ แต่คือ การขยับแบรนด์ให้เป็นมากกว่าการขายสินค้า แต่เป็น Home Solution & Living Experience
สำหรับ Home Solution & Living Experience เป็นวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการผลักดัน และยกระดับจากร้านค้าจำหน่ายสินค้า ให้กลายเป็นศูนย์รวมสินค้าและบริการเรื่องบ้านครบวงจร โดยเน้นสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งแนวคิดนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่มีสินค้าครบ แต่รวมบริการเข้าไว้ด้วยกัน อาทิ การรีโนเวทบ้านทั้งหลัง โดยช่างโฮมโปรที่ได้มาตรฐาน การบริการจัดส่ง ติดตั้ง รื้อถอน ซ่อมแซม การออกแบบพื้นที่พิเศษเพื่อรองรับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยพักฟื้น ไปจนถึงบริการหลังการขายที่ครอบคลุมตลอดอายุการใช้งานสินค้า แม้ว่าจะไม่ได้ซื้อสินค้าจากโฮมโปรก็สามารถเรียกใช้บริการได้
ซึ่งโฮมโปรมีการขยายศูนย์ซ่อมมืออาชีพทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า ไม่ต้องรอซ่อมนาน ลดระยะเวลาในการซ่อมจาก 30-60 วัน เหลือเพียง 3-7 วัน ที่สำคัญเราคิดในมุมของลูกค้า จึงเกิดเป็นบริการเครื่องใช้ไฟฟ้าสำรองระหว่างรอซ่อม ขึ้นมา เช่น ตู้เย็น ปั๊มน้ำ และเครื่องซักผ้า เพื่อให้ลูกค้าใช้ชีวิตต่อได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ ยังเปิดบริการ “Emergency Service” เรียกช่างโฮมโปรได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมถึงหน้างานภายใน 2 ชั่วโมง รองรับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟดับ น้ำไม่ไหล และอีกหนึ่งบริการคือ “Same Day Delivery” ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว แต่ปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีบริการจัดส่ง-ติดตั้ง Same Day Delivery ฟรี ภายในวันเดียว สำหรับสินค้าที่ร่วมรายการ เพราะเราต้องการให้ลูกค้าได้สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทันที
นายวีรพันธ์ กล่าวต่อว่า อีกก้าวสำคัญคือ การพัฒนาแอปพลิเคชัน “Home Service” เป็นแอป “CHANG HomePro” เตรียมเปิดตัวกลางปีนี้ พร้อมสโลแกน “ช่างโฮมโปร มือโปรประจำบ้านคุณ” ที่จะทำให้การเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมก๊อกน้ำ หรือซ่อมแอร์ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ด้วยปลายนิ้วเดียวก็สามารถเรียกช่างโฮมโปรมาถึงบ้านอย่างสะดวก รวดเร็ว และมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ
นอกจากนี้ โฮมโปรยังเดินหน้าสู่องค์กรด้านความยั่งยืน ตั้งเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 พร้อมขับเคลื่อน Lifetime Eco-System เพื่อส่งมอบคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน ตลอดช่วงอายุของการใช้งานสินค้าและบริการ ตลอดจนเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ช่วยจัดการของเก่าให้อย่างถูกวิธี ผ่านโครงการ “แลกเก่าเพื่อโลกใหม่” ลูกค้าสามารถนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าใหม่ และยังแลกข้ามประเภทสินค้าภายในหมวดเดียวกันได้ โดยสินค้าที่ไม่ใช้แล้วจากบ้านลูกค้าโฮมโปรจะนำไปจัดการอย่างถูกวิธี โดยมีบริษัทที่มีใบรับรองตามกฎหมายเป็นผู้ดำเนินการ โดยวัสดุเหล่านี้จะถูกนำไปผลิตเป็น “สินค้ารักษ์โลก จากวัสดุหมุนเวียน” หรือ Circular Products และนำกลับมาวางจำหน่ายในโฮมโปรอีกครั้ง เช่น กระเป๋าช้อปปิ้งจากพลาสติกหุ้มสินค้า หรือกระเบื้องจากสุขภัณฑ์เก่า พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรผลักดัน Circular Economy อย่างจริงจัง
นายวีรพันธ์ กล่าวปิดท้ายว่า ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ท้าทายจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและกำลังซื้อที่ลดลง โฮมโปรยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากกลุ่มลูกค้าบ้านเก่าที่ต้องการปรับปรุงบ้าน อีกทั้งยังมีฐานสมาชิกกว่า 7 ล้านราย ที่นำมาวิเคราะห์และต่อยอดการทำตลาด นำเสนอสินค้าและบริการอย่างแม่นยำ ขณะเดียวกันก็ขยายฐานใหม่ไปยังกลุ่มเจ้าของบ้านใหม่ กลุ่มโปรเจกต์เชิงพาณิชย์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงเพิ่มสินค้ากลุ่ม Health & Wellness ตอบรับเทรนด์สุขภาพที่มาแรง
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาเกือบ 30 ปีของโฮมโปร มาจากการพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทั้งในแง่ของสินค้า บริการ รูปแบบร้านค้าจำหน่ายสินค้า และเทคโนโลยีต่างๆ ที่นำมาใช้ในกระบวนการทำงาน เพื่อสร้าง “Customer Success” ไม่ใช่แค่ประสบการณ์ที่ดี แต่คือ ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการของเราแล้ว จะได้ตามสิ่งที่คาดหวังจริงๆ ความสำเร็จของโฮมโปรไม่ได้วัดแค่ยอดขายหรือจำนวนสาขา แต่ยังสะท้อนจากการได้รับรางวัลระดับประเทศและนานาชาติอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น รางวัล 2025 Thailand’s Most Admired Brand ในกลุ่ม Modern Trade วัสดุก่อสร้าง ที่สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์