การแข่งขันฟุตบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ “เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิต” รอบไฟนัลสเตจ หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย แข่งแบบน็อกเอาต์ นัดเดียวรู้เรื่อง “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ไทยลีก จะพบ อัล อาห์ลี ซาอุดิ ทีมเจ้าถิ่น ที่สนามคิง อับดุลลาห์ สปอร์ตส์ ซิตี้ สเตเดียม เมืองเจดดาห์ ซึ่งเป็นสังเวียนเหย้าของ อัล อาห์ลี เตะวันที่ 26 เม.ย.68 เวลาไทย 23.30 น.
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินทางถึงซาอุฯ โดยรายงานข่าวระบุว่า ทีมไม่มี “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน ที่หายเจ็บกลับมาซ้อมได้ รวมทั้ง “ต้น” นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, “แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, “โย่ง” พรรษา เหมวิบูลย์ โดยชุดที่เดินทางไปซาอุฯ นำโดย ลูคัส คริสปิม, โกรัน เคาซิช, เคนเนท ดูกอล, เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส, มาร์ติน โบอาเคีย, ศุภชัย ใจเด็ด, กิลเยร์เม บิสโซลี
ขณะที่ฝั่ง อัล อาห์ลี นำโดย โรแบร์โต ฟีร์มิโน กัปตันทีม อดีตนักเตะลิเวอร์พูล, ริยาด มาห์เรซ อดีตนักเตะแมนฯ ซิตี, ไอวาน โทนีย์ กองหน้าชาวอังกฤษ, เอดูอาร์ด เมนดี โกลเซเนกัล
เว็บไซต์เอเอฟซี ลงบทความของเกมแต่ละคู่ โดยในเกม บุรีรัมย์-อัล อาห์ลี นั้น เอเอฟซี มองว่า คนสำคัญของ อัล อาห์ลี คือ ริยาด มาห์เรซ ดาวเตะแอลจีเรีย วัย 34 ปี ซึ่งทำประตูและแอสซิสต์ 9 จาก 10 เกมที่ อัล อาห์ลี ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลนี้ แบ่งเป็น 8 ประตู และ 7 แอสซิสต์ ส่วนฝั่ง บุรีรัมย์ เอเอฟซี ชู ศุภณัฏฐ์ ดาวยิงวัย 22 ปี ที่หลังจากกลับมาจาก โอเอช ลูเวิน ก็โชว์ฟอร์มเด่น ในเกมเอเชีย ยิงช่วงทดเวลา พาทีม ชนะ อุลซาน 2-1, จ่ายให้ กิลเยร์เม บิสโซลี ยิงในเกมเสมอ กวางจู 2-2 และยิงประตูพาทีมชนะ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย อย่างไรก็ตามจากรายงานข่าวล่าสุด เจ้าแบงค์ อาจไม่ได้ร่วมทีมไปด้วย
สำหรับ บุรีรัมย์ ถือว่ามีศึกติดพัน โดยในวันที่ 30 เม.ย. พวกเขามีเกมไทยลีก นัดสุดท้าย เปิดบ้านพบ หนองบัว พิชญ เอฟซี โดย บุรีรัมย์ ต้องการชัยชนะ เพื่อการันตีการคว้าแชมป์ โดยที่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไล่จี้มาแต้มเดียว ไปเยือน พีที ประจวบ เอฟซี ขณะเดียวกัน ในถ้วยเอเชีย หาก บุรีรัมย์ สามารถเข้ารอบรองฯ แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ต้องเตะวันที่ 29 เม.ย. พบ อัล ฮิลาล หรือ กวางจู เป็นโปรแกรมดักหน้าไว้อีกด้วย