จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 29 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตภายในหอพักแห่งหนึ่งในซอยประชาอุทิศ 17 จึงรีบประสานแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราชและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยทันที จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องพักของอาคารหอพักย่านประชาอุทิศ ภายในห้องพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นายปริญญา อ่อนละออ อายุ 29 ปี มีอาชีพเป็นไรเดอร์ของบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ผู้ตายมีรูปร่างอ้วน น้ำหนักประมาณ 220 กิโลกรัม และมีโรคประจำตัวหลายชนิด ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน และโรคหอบหืด
สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้นห้อง มีเลือดออกจำนวนมากบริเวณจมูก ริมฝีปากและใบหน้าเขียวคล้ำ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นลายขาวดำ ไม่สวมรองเท้า ใกล้ศพพบถุงพลาสติกสีขาว ภายในบรรจุยาหลายชนิดซึ่งเป็นยารักษาโรคประจำตัวของผู้ตาย
และจากการสอบถาม นางสาว ผึ้ง อายุ 32 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า เริ่มต้นตนพาสามีไปหาหมอเมื่อวันที่ 21 เมษายน ด้วยอาการเกร็ดเลือดต่ำ ออกซิเจนต่ำ แล้วให้แอดมิทที่โรงพยาบาล 1 คืน แล้วทีนี้สามีของตนอาการไม่ดีขึ้น เขาก็ให้กลับมาแต่ให้ยามาไม่ครบให้ยามาไม่ถึงวันที่ 29 เมษายน ก็ไม่ได้กินก็เหลือแต่ยาขับเยี่ยวตัวเดียวครึ่งเม็ดก็ให้เขากินแล้วทีนี้หมอนัดเจาะเลือดวันที่ 29 เมษายน ตนก็เลยพาสามีไป แล้วพอไปถึงโรงพยาบาลหมอก็ถามว่าวันนี้แฟนของตนจะใช้สิทธิ์อะไร ตนก็เลยบอกว่าใช้สิทธิ์ 30 บาท แล้วทีนี้เขาก็นั่งกดคอมดูสักพักนึงแล้วก็บอกว่าแอปมันล่มไปๆมาๆเขาก็บอกว่าครั้งที่แล้ว
ไปๆมาๆเขาก็บอกว่าคนไข้มาหรือไม่ตนก็บอกว่ามา เขาก็บอกว่าเอาคนไข้มาตรวจหน่อยตนก็เลยบอกไปว่าตนขอใบส่งตัวไม่ได้เหรอ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาตรวจเอง ก็คือเขาบอกว่าเดี๋ยวเขาเจาะเลือดให้เองเลยแล้วก็ให้ไปฟังผลตอน 4 โมงเย็น ก็คือเขาก็ไม่ทันได้ไปฟังผลเลือดเขาก็ไปก่อน ตนก็บอกเขาแล้วว่าพี่คือแฟนตนไม่ไหวแล้วคือเขาต้องการไปนอนที่โรงพยาบาลเพราะเขาหายใจไม่ออกก็มีแบบว่าหลับแบบว่าไม่รู้สึกตัวต้องคอยเรียกเขาตลอด ตนก็บอกเขานะแต่เขาก็บอกว่าเดี๋ยวขอตรวจคนไข้ก่อนก็แล้วกันยังไงเดี๋ยวตรวจเองแล้วก็เจาะเลือดที่นี่ไปเลย
ตนก็เลยโมโหแค่ขอใบส่งตัวแค่นี้พอไปโรงพยาบาล โรงพยาบาลก็โยนมาให้ที่อนามัย แล้วอนามัยก็โยนไปให้ที่โรงพยาบาลต้องไปเอาประวัติมาก่อนถึงจะทำใบส่งตัวได้เขาก็อย่างเนี่ยตนก็เลยเจาะเลือดที่เขาแล้วก็กลับมานอนแล้วเขาก็ไปเลย ตนก็แค่อยากจะรู้ว่ากรณีฉุกเฉินเนี่ยใช้ได้แค่ครั้งเดียวเหรอบัตร 30 บาท ใช้ได้แค่ครั้งเดียวอย่างนั้นเหรอ ครั้งต่อไปคือต้องเสียเงินเองเหรออะไรอย่างเนี่ยแล้วตนก็อยากให้เวลาขอใบส่งตัวอะไรแบบนี้เห็นคนไข้อาการไม่ดีเขาน่าจะรีบทำให้นะ ไม่ใช่แบบว่าขอตรวจก่อนก็รอตรวจไปคนไข้ก็นั่งหอบไปไม่ไหวหายใจแบบไม่นี่เเล้วอ่ะ แล้วต้องมารอให้เขาตรวจให้เขาเจาะเลือดแล้วก็เนี่ยพอกลับมานอนเขาก็ไปเลย คือตนอยากรู้ว่าบัตร 30 บาท ใช้ได้เเค่รอบเดียวเหรอไอ้อย่างฉุกเฉินอ่ะถ้าเป็นอะไรครั้งต่อไปตนไปไม่ได้เหรอ ตนต้องเสียตังค์เหรอ ตนแค่อยากรู้แค่นี้ เดี๋ยวก็โยนกันไปโยนกันมาแบบนี้ ทางโรงพยาบาลก็โยนให้ไปเอาใบส่งตัว พอมาคลีนิคเขาก็บอกว่าให้ไปเอาประวัติก่อนที่โรงพยาบาล
โยนกันไปโยนกันมาแบบนี้คือแบบถ้ามันยุ่งยากแบบนี้ก็ไม่ต้องให้เลยดีกว่าบัตร 30 บาท ตนอยากจะรู้ว่าใครจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ตนสูญเสียกับแค่ใบส่งตัวคือเห็นคนไข้แล้วก็น่าจะทำให้นะไม่ใช้ต้องมารอตรวจแบบนี้ไปตรวจที่โรงพยาบาลก็ได้แค่ทำมาเถอะใบส่งตัวถึงวันนี้ไม่ได้ไปเออตนไปพรุ่งนี้ก็ได้แต่คือขอให้มีใบส่งตัวแต่ถ้าเกิดไม่มีใบส่งตัวพรุ่งนี้ตนไปตนก็ต้องเสียตังค์เหรอฉุกเฉินมันใช้ได้แค่ครั้งเดียวเหรอ ตนแค่อยากรู้ ทางโรงพยาบาลบอกว่าน้องใช้ฉุกเฉินไปแล้วนะวันนี้ มาเจาะเลือดน้องต้องเสียเงินเองนะ 650 บาท ตนก็เลยบอกว่าตนไม่มีตังค์ ถ้าไม่มีตังค์ก็ต้องไปขอใบส่งตัวพอตนไปขอใบส่งตัวก็ดึงยื้อเวลา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไป ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะให้ญาตินำเอกสาร มาติดต่อขอรับร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ซึ่งทางญาติ ก็ จะนำร่างผู้เสียชีวิตไปตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดราชสิทธิถนนอิสรภาพ เป็นเวลา 3 คืน ส่วน เรื่องของ การที่โรงพยาบาลกับทางคลินิกได้โยนเรื่องกันไปกันมา จนเป็นเหตุให้ คนไข้ถึงกับเสียชีวิต ตนและทางครอบครัว ยังติดใจในสาเหตุเรื่องนี้อยู่และขอคำอธิบาย จากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวด้วย