บอลทีมชาติไทยอยู่ในช่วงหงอยๆ

ทีมชุด 17 ปี ที่แบกความหวังไปหลังแอ่น ในการไปลุ้นไปบอลโลก แต่กลับตกรอบแรกอย่างรวดเร็ว ไม่มีลุ้น

บอลเด็ก ยังไปบอลโลกไม่ได้ รุ่นอื่นจะไหวเหรอ

โจทย์การพัฒนาระดับรากหญ้า เยาวชน ถูกพูดถึงกันเยอะ เรียกว่า “เบรนสตอร์ม” ระดมความคิดกัน ถึงจะช้า แต่ก็ยังดีที่จะทำ

วันนี้ขอนำความเห็นจากหนึ่งในกูรู ผู้คร่ำหวอดวงการฟุตบอลไทย ทั้งสมัยนักเตะ กองกลางสินธนา อดีตทีมชาติไทย และตอนนี้ที่ทำอคาเดมี่ลูกหนัง

อ.สมบัติ ลีกำเนิดไทย

ความเห็นน่าสนใจ ส่งมานำเสนอกัน

==================

พัฒนาเยาวชน มันไม่ใช่ต้อง “จัดแข่งขัน” เพิ่ม…

…ทุกๆครั้งเลยที่ทีมชาติไทยล้มเหลวกับการคัดเลือกไปเล่นฟุตบอลโลกทั้งชุดเยาวชน และชุดใหญ่ พอจบการแข่งขันฯ ทางฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ประชุมวางแผนพัฒนาเยาวชนกัน และส่วนมากข้อสรุปก็คือ… “จัดแข่งขัน”

จัดแข่งขันเพิ่มหมายความว่า ปัญหาที่ผ่านมา เด็กไทยแข่งขันกันน้อยเกินไปเหรอ? ลองสังเกตกันดีๆ ว่า ทีมฟุตบอลโรงเรียนดังๆ ของประเทศไทย มีสัปดาห์ไหนบ้าง ที่ไม่ได้ไปแข่งขัน

ทุกวันนี้แข่งขันเยอะมากอยู่แล้ว ทำไมต้องไปเพิ่มการแข่งขันอีก

บอลกรมพลศึกษา เป็นแกนหลักอยู่แล้ว ที่เหมาะสมในการเป็นเวทีให้เด็กไทยมายาวนาน แล้วตอนนี้ยังมีคัพอื่นๆ เกิดขึ้นมากมาย

ทุกคนก็รู้ว่าทีมเยาวชนชาติไทยที่ประสบความล้มเหลวมาทุกๆ ครั้ง ไม่ได้เกิดจากเด็กเล่นทีมไม่เป็น แต่มันมาจากความสามารถเฉพาะตัว (Skills) ต่างหาก ที่เด็กเราไม่ได้รับการ Up Skills ให้มันสูงขึ้นเทียบเท่าระดับเอเชีย หรือระดับโลก นั่นเอง

เช่น…การเล่นฟุตบอลจังหวะเดียว มีความแม่นยำในระยะใกล้-ไกล ไหม?, การเล่นฟุตบอล แบบ 2 จังหวะ (First Touch) ได้รับการพัฒนาขึ้นไหม?, การเลี้ยงฟุตบอลแบบกินตัว ด้วยความเร็วสูง มีให้เห็นกี่คน?, Advanced Skills เช่น การยิงไกล / การโหม่ง / การโยนยาว / Volley Kick, Free Kick / Crossing ฯลฯ ได้รับการพัฒนาให้แม่นยำขึ้นมาไหม ?, วิธีคิดในการเล่นแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ภายใต้สถานการณ์กดดัน ได้รับการฝึกกันบ้างไหม?

สิ่งต่างๆเหล่านี้ เด็กเยาวชนชาติเรา ยังห่างจากเวทีระดับเอเชีย หรือระดับโลก อย่างมาก และเป็นแบบนี้มานานทุกยุค ทุกสมัย แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข สิ่งที่ยังคงเห็นอยู่เสมอๆ ก็คือ จัดแข่งขันเพิ่มขึ้น

การแข่งขัน เป็นการเอาความสามารถของเด็กที่มีอยู่ออกมาแสดง เท่านั้นเอง แต่มันไม่ได้ทำให้เด็กเก่งขึ้นมาเลย

เช่น เด็กโหม่งบอลไม่เป็น หรือ เตะบอลได้เท้าข้างเดียว จะแข่งขันไปอีก 100 แมทช์ เด็กก็ยังทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่ดี มันต้องมาจากการฝึกซ้อมที่ซ้ำๆ บ่อยๆ

แต่ถ้าหากทีมฟุตบอลโรงเรียน หรือสโมสรฯ ต้องไปแข่งขัน ในทุกสัปดาห์ ระยะเวลาทั้งปี สิ่งที่โค้ชจะต้องฝึกให้ ก็คือ ฝึกเพื่อเตรียมทีมไปแข่งตลอดทั้งปี แล้วจะเอาเวลาไหนที่จะมาฝึกเพื่อ Up Skills / Up Levels ให้เด็กเก่งขึ้นมา แล้วระยะเวลาก็ผ่านไปๆ พอโตขึ้นมา เด็กมีความสามารถเท่าไหร่ ก็เล่นได้เท่านั้น เหมือนเดิม

แล้วจะต้องทำอย่างไร? ให้มันเป็น “รูปธรรม” ขึ้นมา นี่คือ โจทย์ที่จะต้องระดมความคิดจากทุกๆฝ่าย ที่คลุกคลีกับฟุตบอลเด็กๆมานานๆ

ไปฟุตบอลโลก ที่ง่ายที่สุด คือ รุ่น 17 ปี เพราะจัดทุกปี และเอา 8 ทีมไปเลย (เหมือนที่ทีมอินโดฯ ได้ไป)..ดังนั้น สมาคมฯ ต้องรีบวางแผนการปั้นเด็กรุ่น 14 ปี (ปั้น 2 ปี) และรุ่น 12 ปี (ปั้น 4 ปี) เอามาเก็บตัวฝึก Up Skills / Up Levels อาจจะมาร่วมกันฝึกสัก เดือนละ 3-4 วัน (กิน-นอน) ไปเรื่อยๆ แล้วหาแมทช์ เพื่อดูพัฒนาการ แล้วเน้นฝึกสกิล มากกว่าฝึกทีมก่อน อาจจะหาโค้ชที่เก่งเรื่องสกิล มาติวให้ในช่วงเก็บตัว

ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ แข่งบ้างตามโอกาส (อาจจะหาโรงเรียนที่สมาคมฯไปติดต่อเอาไว้ ให้เป็นที่เรียน หรือ ให้เรียนโรงเรียนเดิมก็ได้ แล้วนัดมาฝึกสกิลกัน เป็นช่วงๆ หรือสมาคมฯ อาจจะตั้งศูนย์ฝึก Excellent Center แบบเดียวที่หนองจอก (เอาที่นี่มาปัดฝุ่นก็ได้)

…แบบนี้ ถึงจะมีหวังนะ…

สมบัติ ลีกำเนิดไทย
อดีตนักเตะทีมชาติไทย
ผอ.สถาบันสอนฟุตบอลอินเตอร์ไทยแลนด์