ตำรวจ บช.ก.เร่งเครื่องตรวจสอบเส้นเงิน “สมีแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พบยอดเงินหมุนเวียนปีละกว่า 100 ล้านบาท แต่มีค่าใช้จ่ายในวัด 8 แสนบาทต่อเดือนกลับเบิกเงินออกจากบัญชีมากกว่า 1 ล้านบาทหลายครั้งผิดปกติ ผบช.ไซเบอร์แจงตรวจย้อนหลังตั้งแต่ปี 63 ตั้งแต่เว็บพนัน “LAGALAXY911” เปิดให้เล่น แยกเป็น 3 ประเด็น การกู้ยืมเงิน เข้าร่วมเล่นพนัน และลงทุนเปิดเว็บพนัน ยังสาวไม่ถึงคดีฟอกเงิน ผอ.พศ.แจงมหาเถรสมาคมวางแนวทางจัดการทรัพย์สินของวัด ขณะที่ใบเฟิร์น-สุทธิยา นักร้องลูกทุ่งแจ้งความมีโพสต์หมิ่นพาดพิงเอี่ยวสมีแย้ม

ภายหลังตำรวจสนธิกำลังตรวจค้นวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม หาข้อมูลบัญชีรายรับ-รายจ่ายของอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตตินฺธโร) หรือสมีแย้ม หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อายุ 70 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ยักยอกเงินวัดไปเล่นการพนันออนไลน์ และเปย์เงินให้ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็น วังทะพันธ์ อายุ 28 ปี สาวคนสนิท กว่า 300 ล้านบาท ภายหลังตำรวจ บก.ปปป.นำกำลังจับกุมทั้ง 2 คนพร้อมนายเอกพจน์ ภูฆัง หรืออดีตพระมหาเอกพจน์ คนสนิทสมีแย้ม มีหน้าที่โอนเงินให้สีกาเก็นตามคำสั่ง ทั้ง 3 คนถูกส่งตัวเข้าเรือนจำแล้ว ผลการตรวจค้นพบบัญชีต้องสงสัย 6 บัญชี เงินในตู้บริจาค และโฉนดที่ดินหลายแปลงนำไปตรวจสอบ ขณะที่ตำรวจไซเบอร์เร่งตรวจเส้นทางเงินของสมีแย้มและสีกาเก็นที่โอนเข้าเว็บพนัน

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ที่ บช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานคดีสมีแย้มยักยอกเงินวัดพบว่าเปิดบัญชีธนาคาร 49 บัญชีจากฝ่ายจัดเก็บรายได้และการเงินของวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาของรายได้และรายจ่ายทั้งหมด เพื่อหาช่องโหว่การยักยอกเงินอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะรู้ยอดทั้งหมดของเงินวัดและเงินส่วนตัวว่ามีเท่าไหร่ ส่วนเรื่องนางเตยคนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนั้น ยังไม่ได้สอบปากคำลงลึกในรายละเอียด เพราะนางเตยไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร ปิดบังข้อมูลอีกหลายอย่าง เท่าที่ตรวจสอบพบว่าเข้ามาทำร้านกาแฟอยู่ภายในวัดไร่ขิงตอนช่วงสมีแย้มเป็นเจ้าอาวาสได้ไม่นาน น่าจะเป็นการชักนำเข้ามาจากพันจ่าทหารเรือ สามีนางเตยคนสนิทของสมีแย้ม ที่มีชื่อเป็นเจ้าของรถหลายคันภายในวัดไร่ขิง จากนั้นนางเตยเริ่มเข้ามาบริหารธุรกิจเกือบทั้งหมดภายในวัด

ตามการสอบสวนระบุว่า ขณะที่พนักงานสอบสวน บก.ปปป.เร่งตรวจสอบมูลนิธิวัดไร่ขิงทั้งบัญชีมูลนิธิ บัญชีของสมีแย้ม บัญชีกฐินและบัญชีกิจกรรมต่างๆของวัด พร้อมทั้งตรวจสอบฝ่ายการเงินของวัดที่รับผิดชอบตู้บริจาคภายในวัด 185 ตู้ อาหารปลา เครื่องสังฆทาน ร้านจำหน่ายวัตถุมงคล ค่าเช่าที่ธรณีสงฆ์ ค่าประมูลแผงขายของงานประจำปีของวัดที่จัดปีละ 2 ครั้ง จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่ายอดเงินรายได้ของวัดปีละประมาณ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตรวจสอบทรัพย์สินของนางเตย เบื้องต้นพบว่า ทำธุรกิจค่ายเพลง และรีสอร์ตในพื้นที่ จ.มุกดาหาร หลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นคนทำหน้าที่บริหารจัดการเงินทุกอย่างของวัด พนักงานสอบสวนเตรียมรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับในข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานต่อไป

มีรายงานว่า การตรวจสอบบัญชีในวัดพบเงินถูกเบิกออกจากบัญชีผิดวัตถุประสงค์ เชื่อมโยงจากบัญชีวัดอีกบัญชีหนึ่งไปยังอีกบัญชีหนึ่ง รวมถึงพบการเบิกค่าน้ำค่าไฟของวัดที่เกินจริง ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ประมาณ 800,000 บาทต่อเดือน แต่ถูกเบิกออกจากบัญชีมากกว่า 1 ล้านบาท จำนวนหลายครั้ง สมีแย้มเป็นผู้ใช้อำนาจเบิกค่าใช้จ่ายในขณะนั้น ทั้งนี้ พยานบุคคลให้การกับพนักงานสอบสวนถึงพฤติกรรมของสมีแย้มว่า มักเบิกเงินในช่วงเวลากลางคืนจนถึงกลางดึกจำนวนหลักแสนถึงหลักล้านบาท นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังพบบัญชีลับที่สีกาเก็นเปิดไว้ในชื่อตัวเอง ก่อนส่งมอบให้สมีแย้มเป็นคนเก็บเพื่อไว้ใช้โอนเงินด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลางเข้าประสานข้อมูลกับทาง บช.สอท.ให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ตำรวจ บช.ก. มาประชุมร่วมกับตำรวจไซเบอร์ว่า กลุ่มผู้ต้องหาในคดีที่ บช.ก.และตำรวจไซเบอร์รับผิดชอบ บางคนเป็นคนเดียวกัน ในส่วนของเส้นเงินที่พบตอนนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องตามที่ตก เป็นข่าวอยู่แล้ว ทั้งอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อดีตพระเอกพจน์ ผู้ต้องหาในคดีเว็บพนันของตำรวจไซเบอร์ เป็นในส่วนของการตรวจสอบเส้นเงินเฉพาะปี 2567 ภายหลังการประชุมร่วมกันนำข้อมูลมาสังเคราะห์ ในส่วนของตำรวจไซเบอร์จะตรวจสอบย้อนหลังไปจนถึงช่วงปี 63 เป็นช่วงที่เว็บพนันออนไลน์ “LAGALAXY911” เริ่มเปิดให้เข้าเล่น

พล.ต.ท.ไตรรงค์เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของตำรวจ บช.ก.จะตรวจสอบย้อนหลังไปนานกว่านั้น เนื่องจากว่าเป็นเรื่องของการยักยอกเงินวัด ส่วนกรณีเส้นเงินของ น.ส.อรัญญาวรรณ หรือเก็น วังทะพันธ์ โบรกเกอร์สาวเว็บพนันออนไลน์คนสนิท อยู่ระหว่างการสืบสวนเนื่องจากเป็นประเด็นสำคัญจะต้องพิสูจน์ให้ทราบแน่ชัด แยกเป็น 3 ประเด็น ประเด็นแรกเป็นการกู้ยืมเงินกันจริงหรือไม่ ประเด็นที่ 2 การเข้าร่วมเล่นการพนันตามที่อดีตเจ้าอาวาสให้การไว้หรือไม่ และประเด็นที่ 3 น.ส.อรัญญาวรรณลงทุนในเว็บการพนันออนไลน์ต้องสอบสวนให้เกิดความชัดเจน ในส่วนความผิดต้องแบ่งเป็น 2 คดี ในเรื่องความผิดมูลฐานการยักยอกเงินวัด และเรื่องการพนัน ส่วนนี้จะแยกกันโดยเฉพาะในส่วนของอดีตเจ้าอาวาสต้องดูตั้งแต่ครั้งแรกว่าได้เงินมาอย่างไร ถ้าเป็นการยักยอกเงินวัดจะเป็นความผิดในฐานยักยอกเงินวัด และมีความผิดในฐานฟอกเงินหากถ่ายโอนเพื่อปิดลำพังซ่อนเร้น ส่วนประเด็นของนายมเหศักดิ์ที่เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญและเป็นผู้รับผลประโยชน์สูงสุดของเครือข่ายเว็บการพนัน ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุม

เมื่อถามว่าสมีแย้มให้อดีตพระมหาเอกพจน์ พระลูกวัดคนสนิทนำเงินกว่า 800 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของสีกาเก็น โบรกเกอร์สาวเว็บพนันออนไลน์ อาจไม่ได้เป็นการเล่นพนันทั้งหมดเบื้องหลังเข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องการฟอกเงินหรือไม่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ตอบว่า สำหรับในประเด็นนี้ยังไม่พบหลักฐาน

ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ภายหลังการประชุมวาระสำคัญคือแนวทางการบริหารศาสนสมบัติวัด มหาเถรสมาคม (มส.) รับทราบข้อปรารภของสมเด็จพระสังฆราช ที่ประชุมมีมติเห็นชอบดังนี้ 1.ให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการวางแนวทางในการจัดการทรัพย์สินของวัด มีสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการ มส. ประธานฝ่ายสาธารณูปการของ มส.เป็นประธานคณะอนุกรรมการ 2.จัดทำแนวทางบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดให้ทันสมัยตรวจสอบได้ นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ 3.รณรงค์ให้ทุกวัดใช้ระบบอี-โดเนชั่น มาใช้รับบริจาคจากพุทธศาสนิกชน 4.การปรับปรุงโครงสร้างของ พศ. จัดตั้งกองศาสนสมบัติวัดขึ้นมาดูแลการจัดการศาสนสมบัติของวัดโดยเฉพาะ

...

นายอินทพรกล่าวอีกว่า มติดังกล่าวถือเป็นการถอดบทเรียนจากกรณีวัดไร่ขิง ที่ผ่านมาวัดไร่ขิงเคยเป็น 1 ใน 72 วัดที่เป็นแบบอย่างในการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่ปี 2561-2567 รายงานมาที่ พศ.ทุกปี แต่รายงานมาเพียง 4 บัญชีเท่านั้น ทั้งที่เมื่อเกิดเหตุอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด ตำรวจเข้าไปตรวจสอบกลับพบว่ามีมากกว่า 20 บัญชี แต่กลับแจ้งมาที่ พศ.เพียง 4 บัญชี ดังนั้น การที่ มส. มีมติครั้งนี้ เพื่อวางแนวทางในการป้องกันไม่ให้เกิดกรณีเช่นวัดไร่ขิงขึ้นมาอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ขณะนี้พระราชวชิรสุตาภรณ์ หรือหลวงพ่อแก้ว เจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ ในฐานะเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม จะเป็นผู้พิจารณาหาพระภิกษุผู้เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงอาจจะใช้ระยะเวลาที่เหมาะสม จากนั้นจะเสนอชื่อเข้าสู่ที่ประชุม มส. จากนั้น มส.จะให้ความเห็นและมีมติออกมา ถ้ามีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งตามที่เจ้าคณะจังหวัดเสนอมา มส.จะทำหนังสือถึงสมเด็จพระสังฆราช จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชจะทำหนังสือถึงสำนักพระราชวังเพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
มีพระราชดำริและเมื่อมีพระราชดำริลงมา สมเด็จพระสังฆราชจะมีพระบัญชาแต่งตั้งเจ้าอาวาสต่อไป

ต่อมาเวลา 14.30 น. น.ส.สุทธิยา รอดภัย หรือใบเฟิร์น สุทธิยา นักร้องลูกทุ่งสาวรองแชมป์รายการ ไมค์ทองคำซีซัน1 ผลงานเพลงฮิต “ทวงรักฝากลม” พร้อมทนายความเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ภาสกร กันจู สว. (สอบสวน) สน.คันนายาว เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้โพสต์เฟซบุ๊กลงภาพและข้อความหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำหลักฐานภาพถ่ายคู่กับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ข้อความที่โพสต์หมิ่น และข้อความคอมเมนต์ต่างๆทำให้เสียหาย

ใบเฟิร์น-สุทธิยา เปิดเผยว่า ตนถูกเพจเฟซบุ๊กรายหนึ่งนำภาพถ่ายในชุดเดรสสีเหลืองถ่ายคู่ร่วมกับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อครั้งไปทำบุญที่วัดงาน “รวมพลคนลูกทุ่ง” วันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ตรงกับวันเพลงลูกทุ่งไทย หลังเสร็จงานตนมีโอกาสไปกราบท่านอดีตเจ้าอาวาสและถ่ายภาพคู่มาลงในเฟซบุ๊ก ผู้โพสต์นำภาพดังกล่าววางจับคู่กับภาพหญิงสาว 2 คนในชุดวาบหวิว พร้อมพาดหัวโยงถึงอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยักยอกเงินวัด และโอนเงินให้หญิงสาวไปเล่นพนันออนไลน์กว่า 850 ล้านบาท ทำให้ตนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหญิงสาวที่รับโอนเงินจากอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และถูกวิพากษ์วิจารณ์ทำให้ได้รับความเสียหาย

ด้าน พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับแจ้ง ความสอบปากคำดำเนินคดี นอกจากนี้อาจจะประสานหน่วยงานกับตำรวจไซเบอร์ ช่วยดำเนินการด้วยเพื่อติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป