หลังจากที่ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา เลขาธิการสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ออกมาเผยว่า นาบิล อานาน เจ้าของแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต เฉพาะกาล ตอบรับที่จะช่วยทีมชาติไทย ล่าเหรียญทองโอลิมปิก 2028 ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกเสียงฮือฮาในโลกโซเชียลเป็นอย่างมาก
ล่าสุด “บิ๊กปลาย” นายจิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ออกมากลบกระแสดังกล่าว โดยระบุว่า ONE Championship ไม่ได้อนุญาต และตัวของ นาบิล ก็ยังไม่ได้ตอบรับในเรื่องนี้แต่อย่างใด พร้อมชี้ว่าตอนนี้ นาบิล กำลังโลดแล่นอยู่ในเส้นทางมวยไทยอาชีพ เตรียมที่จะสร้างรายได้ให้ตัวเองมหาศาลในอนาคต ไม่สมควรที่จะลงไปต่อยรูปแบบมวยสากลสมัครเล่นอีก ควรจะเปิดโอกาสให้แก่นักมวยสมัครเล่นคนอื่นๆ จะดีเสียกว่า
“ข่าวที่ออกมานั้น ทาง ONE ยังไม่ได้อนุญาต และนาบิล ก็ยังไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด รวมถึงทางสมาคมฯ ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรทาง ONE มาเลย เพราะฉะนั้นข่าวที่ออกไปไม่ใช่ความจริง” บิ๊กปาย เริ่มกล่าว
“ตอนนี้ นาบิล กำลังโลดแล่นอยู่ในวงการมวยไทยอาชีพ และ ONE Championship ก็เป็นกีฬาอาชีพที่ถือเป็นจุดสูงสุดของวงการนี้ และนาบิล ก็มีสถานะเป็นแชมป์โลก (เฉพาะกาล) เพราะฉะนั้นการที่ นาบิล จะไปแข่งมวยสากลให้ทีมชาติ ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากองค์กรเสียก่อน ซึ่งตอนนี้ทางเรายังไม่ได้อนุญาตแต่อย่างใด และอีกอย่างคือการไปต่อยให้ทีมชาติดูจะเอาเปรียบนักกีฬาสมัครเล่นที่ฝึกซ้อมกันอย่างเต็มที่อยู่แล้วอีกด้วย”
“ความเป็นจริง มวยสากล ในโอลิมปิก ถือเป็นการชกในรูปแบบสมัครเล่น ก็ควรให้โอกาสนักกีฬาที่เป็นมือสมัครเล่นมากกว่า ส่วน นาบิล เอง อยู่ในวงการอาชีพอยู่แล้ว และรายการของเราการเป็นแชมป์โลก ความยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเหรียญทองโอลิมปิกเลย ตอนนี้เขาก็มีสถานะเปรียบเสมือนฮีโร่อยู่แล้ว แชมป์โลกของ นาบิล ก็มีศักดิ์ศรีไม่แพ้เหรียญทองโอลิมปิกเลย”
“นาบิล ยังมีเส้นทางอีกยาวไกลในรายการนี้ และค่าตัวที่ได้รับก็ถือว่าสูงอยู่แล้ว ทาง ONE มองว่าการที่ นาบิล จะไปชก ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเท่าไหร่เลยต่อตัวเขาเอง”
“โดยเฉพาะสัญญาที่นักกีฬาเซ็นกับเรา ตัวนักกีฬาเองไม่สามารถที่จะไปขึ้นชกในรายการอื่นได้อยู่แล้ว จริงๆ เราจะดูเคสบายเคส แต่สำหรับ นาบิล ก็มีสถานะเป็นแชมป์โลก ก็ไม่ควรที่จะไปสละเส้นทางของตัวเองเพื่อไปชกในระดับสมัครเล่น”
“ที่ทางสมาคมกีฬามวยสากลฯ บอกว่า การรับใช้ชาตินั้นถ้าประสบความสำเร็จก็จะมีความมั่นคงอื่นๆ เข้ามา เช่น การรับราชการ แต่สำหรับ ONE นั้น ก็มีความมั่นคงอีกทางเหมือนกัน จะบอกว่ามันเป็นความมั่นคงคนละเส้นทางกัน ด้วยค่าตัวที่มหาศาล นักมวยไม่จำเป็นต้องเข้าไปเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติเป็นเวลานาน ไม่ต้องรอได้เหรียญถึงจะประสบความสำเร็จ”
“ถ้าเทียบกันแล้วในเรื่องของรายได้ หรือความเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก การมาชกในรายการ ONE ดูจะมีภาษีมากกว่าการไปชกสมัครเล่นกับทีมชาติด้วยซ้ำ ตัวนักมวยเองไม่ต้องรอที่จะได้เหรียญถึงจะประสบความสำเร็จ เพราะการเข้ามาชกพวกเขาก็ได้รับค่าชกเยอะอยู่แล้ว สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ยกตัวอย่างเช่น รถถัง จิตรเมืองนนท์ ที่ทุกวันนี้ได้ค่าตัว 14-15 ล้านบาท หรือคนอื่้นๆ ที่มีค่าตัวหลักล้าน”
“ONE สามารถปั้นดิน ไปสู่ดาว ถือเป็นถนนแห่งการสร้างซูเปอร์สตาร์ระดับโลก อย่างที่ทราบกันดี นักชกของเรา เปลี่ยนสถานะของตัวเองจากหน้ามือเป็นหลังมือไปแล้วหลายคน ซึ่งเราก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ คน ที่ช่วยกันสร้างมวยไทยให้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของประเทศไทย ทำให้ ONE เสมือนเป็นจุดศูนย์กลางของโลกศิลปะการต่อสู้ระดับโลก” จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย กล่าวปิดท้าย