สิ่งที่รัฐควรทําในสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้
GH News May 21, 2025 01:07 PM

อาทิตย์ที่แล้ว ผมให้สัมภาษณ์รายการ CEO Vision FM96.5 เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศขณะนี้และสิ่งที่รัฐบาลควรทําเพื่อแก้ไขปัญหา วันนี้จึงอยากขยายความเรื่องนี้เพื่อแชร์ความเห็นผมให้แฟนคอลัมน์ “เขียนให้คิด” ทราบ นี่คือประเด็นที่จะเขียนวันนี้

ประเทศไทยวันนี้เผชิญปัญหาและความท้าทายทางเศรษฐกิจที่สำคัญสามเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องหนักทั้งสามเรื่อง

หนึ่ง ปัญหาปากท้อง จากที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ตกต่ำ เศรษฐกิจขยายตัวต่ำ เป็นผลส่วนหนึ่งจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ชะลอ กระทบโดยความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ขาดรายได้ กำลังซื้ออ่อนแอ ประชาชนไม่ใช้จ่าย กระทบต่อถึงผู้ประกอบการและภาคธุรกิจ ความรู้สึกคนทั่วไปขณะนี้คือเศรษฐกิจแย่ และไม่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นเร็วเพราะความไม่แน่นอนที่มีมากทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สอง โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศล้าหลังเทียบกับประเทศอื่น เนื่องจากเราไม่มีการลงทุนมานานทั้งโดยภาครัฐและเอกชนตั้งแต่วิกฤติปี 2540 ทําให้โครงสร้างพื้นฐานและระบบการผลิตในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไม่ทันสมัย ขาดนวัตกรรม เพราะไม่มีการลงทุนด้านเทศโนโลยี่ การศึกษา และทักษะแรงงาน ความสามารถในการแข่งขันของประเทศจึงด้อยลง กระทบความสามารถในการหารายได้และการเติบโตของเศรษฐกิจ ผลคือ เศรษฐกิจประเทศเราขยายตัวในอัตราตํ่าต่อเนื่อง

สาม ความสามารถที่ภาครัฐจะทํานโยบายเพื่อแก้ไขปัญหายังไม่ปรากฏให้เห็น ตรงกันข้ามสิ่งที่ภาครัฐ หมายถึง นักการเมืองและข้าราชการทำ กลับยิ่งซํ้าเติมให้ปัญหารุนแรงขึ้นหรือแก้ไขยากขึ้น เพราะการทุจริตคอรัปชั่น การบังคับใช้กฏหมายที่อ่อนแอ และระบบอุปถัมภ์ที่โจ่งแจ้งรุนแรง นี่คือเหตุผลว่าทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นโดยเร็วภายใต้สิ่งต่างๆที่มีอยู่

นี่คือสามปัญหาที่ประเทศมีและต้องแก้ไข เรื่องปากท้อง โครงสร้างเศรษฐกิจที่ล้าสมัย และปัญหาธรรมาภิบาลในการทําหน้าที่ของภาครัฐ คือการทุจริตคอรัปชั่น การบังคับใช้กฏหมาย และระบบอุปถัมภ์ ที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการและการแก้ไขปัญหาของประเทศ และถ้าทั้งสามปัญหาไม่มีการแก้ไขจริงจัง สิ่งที่รัฐบาลทําแม้จะตั้งใจดีก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้ ตรงกันข้าม จะสิ้นเปลืองงบประมาณและทรัพยากร และทำให้ประเทศเสียโอกาส

ตัวอย่างเช่น การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน ซึ่งหวังกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย เป็นการแก้ไขปัญหาด้านอุปสงค์ของเศรษฐกิจให้การใช้จ่ายเร่งตัว เพื่อให้เกิดการผลิตและสร้างรายได้ แต่ปัญหาของเศรษฐกิจเราเป็นปัญหาด้านอุปทาน คือการผลิตของเศรษฐกิจมีข้อจำกัด ไม่ทันสมัย และขาดความสามารถที่จะเเข่งขัน ดังนั้น ถ้ารัฐบาลมุ่งแต่กระตุ้นการใช้จ่าย ปัญหาด้านอุปทานของประเทศก็ไม่มีการแก้ไข และผลต่อเศรษฐกิจของการแจกเงินเพื่อกระตุ้นการบริโภคก็จะจํากัด เพราะรัฐบาลเสียโอกาสที่จะนําเงินที่แจกไปทําประโยชน์อย่างอื่นที่อาจแก้ปัญหาเศรษฐกิจหรือให้ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจได้ดีกว่า เป็นตัวอย่างของความสูญเปล่า เปรียบได้กับรถยนต์เก่าที่เครื่องยนต์มีปัญหา แต่เจ้าของไม่ยอมซ่อม ไม่ยอมยกเครื่อง เอาแต่เติมนํ้ามันและเหยียบคันเร่ง รถจึงวิ่งได้ไม่เร็ว ไปได้ไม่ไกล และสิ้นเปลืองมาก เหมือนเศรษฐกิจเราขณะนี้

ดังนั้น สิ่งที่รัฐต้องทําคือปฏิรูปเศรษฐกิจ หมายถึงปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรมให้ทันสมัย แข่งขันได้ ที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศได้มากขึ้น นําไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนทั้งประเทศ และเหตุที่รัฐต้องเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจก็เพราะความอยู่รอดของประเทศกําลังถูกท้าทายจากหลายเรื่องที่เข้ามาประดัง

หนึ่ง เศรษฐกิจโลกปัจจุบันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโลกาภิวัตน์ ไม่มีการค้าเสรี ไม่มีความสงบ มีแต่ความแตกแยก ภูมิรัฐศาสตร์ การกีดกันทางการค้า และความไม่แน่นอน ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตด้วยการพึ่งเศรษฐกิจโลกทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการลงทุนจากต่างประเทศ แต่จากนี้ไป การเติบโตแบบพึ่งเศรษฐกิจโลกจะมีความเสี่ยง ทําให้เราต้องพึ่งตนเองมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจและประเทศอยู่รอดได้ในระยะยาว ต้องทําให้เศรษฐกิจและคนในประเทศเก่งขึ้น มีความรู้ ทักษะ และความสามารถที่จะปรับตัว ดูแลตัวเอง และสร้างการเติบโต นี่คือเป้าหมายของการปฏิรูปเศรษฐกิจ

สอง เศรษฐกิจเราอ่อนแอเกินไปที่จะตั้งรับหรือสู้กับแรงกระทบหรือช็อกใหญ่ ๆ จากภายนอก เพราะขยายตัวในอัตราที่ตํ่ามานาน อีกทั้งโครงสร้างประชากรก็มีสัดส่วนคนสูงวัยที่ไม่ทํางานมากขึ้น ทำให้ประเทศขาดความเข้มแข็งและทรัพยากรการเงินที่จะตั้งรับช็อกจากภายนอก ผลคือเศรษฐกิจจะถูกกระทบแรงเมื่อช็อกเกิดขึ้นและฟื้นตัวช้า ตัวอย่างคือวิกฤตโควิด19 ที่ประชาชนต้องพึ่งรัฐอย่างเดียว ไม่มีพลังหรือความสามารถที่จะดูแลตัวเอง ทําให้รัฐบาลต้องสร้างหนี้โดยกู้เงินจํานวนมากเพื่อดูแลประชาชน การปฏิรูปจึงสําคัญที่จะสร้างความเข้มแข้งให้กับประชาชนและเศรษฐกิจในการปรับตัวและตั้งรับผลกระทบจากภายนอก เพื่อให้ประเทศไปต่อได้

สาม การไม่ปฏิรูปไม่ทําอะไรจะซ้ำเติมเศรษฐกิจและประเทศให้ยิ่งอ่อนแอ ต้องพึ่งพาประเทศอื่นมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด ผลคือเศรษฐกิจและอธิปไตยของประเทศจะถูกท้าทาย เอาเปรียบและแทรกแซงได้ง่ายโดยประเทศที่เข้มแข็งกว่า

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเศรษฐกิจไทยต้องปฏิรูป และสิ่งที่รัฐบาลควรทํามีสองเรื่อง หนึ่ง แก้ไขปัญหาปากท้อง ไม่ใช่ด้วยการเเจกเงิน แต่ด้วยการสร้างงานสร้างโอกาส ให้ประชาชนมีงานทํา มีรายได้ ไม่ใช่ครั้งเดียวเหมือนแจกเงิน แต่มีรายได้ต่อ ๆ ไปจากการทํางาน นี่จะเป็นการแก้ไขปัญหาปากท้องที่ตรงจุด

สอง ปฏิรูปเศรษฐกิจ โดยปฏิรูปแบบมียุทธศาสตร์ คือมุ่งปฏิรูปในเรื่องที่จะทําให้ยุทธศาสตร์การเติบโตของประเทศประสบความสำเร็จ เปรียบเหมือนบริษัทที่มีปัญหาใกล้ล้มละลาย เพื่อแก้ปัญหาฝ่ายจัดการกําหนดยุทธศาสตร์ที่จะ Turnaround หรือพลิกฟื้นฐานะการเงินของบริษัท ซึ่งจำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่โครงสร้างและวิธีการทำธุรกิจของบริษัท นี่คือการปฏิรูปหรือ Restructure บริษัท ระดับประเทศก็เช่นกัน เราต้องมียุทธศาสตร์ที่จะนําเศรษฐกิจออกจากความตกตํ่า กลับไปสู่การเติบโตที่เข้มแข็ง และมุ่งปฏิรูปเศรษฐกิจในประเด็นที่จะทําให้ยุทธศาสตร์ดังกล่าวประสพความสำเร็จ

ในการสัมภาษณ์ ผมพูดถึงสองยุทธศาสตร์ที่น่าจะเป็นทางออกสำหรับประเทศขณะนี้ อันแรก ทําให้ภาคเกษตรไทยทันสมัย เป็น เกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Agriculture ทั้งประเทศ ผสมผสานความรู้และความสามารถของเกษตกรและเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเพื่มผลผลิตและรายได้ให้กับภาคเกษตรอย่างถาวร สนับสนุนโดยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การตลาด เทคโนโลยี่ และศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน สิ่งเหล่านี้อยู่แค่เอื้อมสำหรับประเทศไทยถ้ามีการปฏิรูป

สอง หาประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลกที่กําลังเกิดขึ้น เพราะในทุกวิกฤติจะมีโอกาส คราวนี้ก็เช่นกัน สิ่งที่เป็นผลจริง ๆ ของสงครามการค้าที่มีผลต่อธุรกิจทั่วโลก คือดิสรัปชั่นที่มีต่อห่วงโซ่การผลิตโลก ที่ผู้ผลิตทั่วโลกจะต้องจัดหรือหาห่วงโซ่หรือเครือข่ายการผลิตใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีในอัตราที่สูง ทําให้ต้องมีพื้นที่ใหม่เป็นตัวเลือกที่จะเป็นสถานที่ทำการผลิต และไทยอาจวางตำแหน่งเป็นพื้นที่นั้น เป็นศูนย์หรือฮับการผลิตของโลกที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ มีเสถียรภาพ ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อม และมีความเป็นกลางทางการเมือง โดยเริ่มที่สินค้าที่ไทยมีความถนัดในการผลิต เช่น อาหาร รถยนต์ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตร เครื่องมือแพทย์ และเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่จะสร้างประเทศ

และเพื่อให้ยุทธศาสตร์ประสบความสําเร็จ รัฐบาล ระบบราชการ และภาคธุรกิจ ต้องพร้อมใจปฏิรูปเศรษฐกิจในทุกส่วนเพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ไม่ว่านโยบายส่งเสริมการลงทุน ระบบภาษีและพิธีศุลกากร การเปิดเสรีธุรกิจในประเทศให้มีการแข่งขัน ปฏิรูประบบราชการ การบังคับใช้กฏหมาย ธรรมาภิบาล เอาจริงกับการทุจริตคอรัปชั่น รัฐบาลลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอลและโลจิสติกส์ และสร้างแรงจูงใจให้บริษัทในประเทศลงทุน ปฏิรูประบบการศึกษา ทักษะแรงงาน ตลาดแรงงานเพื่อให้การใช้ทรัพยากรแรงงานมีความคล่องตัว จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวและเอาจริงกับธุรกิจสีเทาเพื่อสร้างความเชื่อมั่น นี่คือการปฏิรูปที่ต้องทําเพื่อให้ยุทธศาสตร์สร้างไทยเป็นฮับการผลิตโลกประสบความสำเร็จ

ทั้งหมดคือความเห็นที่ผมให้ไปในการสัมภาษณ์ เพื่อชี้ว่าทุกอย่างแก้ไขได้และควรรีบทําเพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาเติบโต แต่ถ้าไม่ทํา ปล่อยให้การทุจริตคอรัปชั่นและระบบอุปถัมภ์ครอบงําประเทศ ประเทศเราก็จะยิ่งถอยหลัง ไม่มีอนาคต ไม่มีใครสนใจ

เขียนให้คิด

ดร. บัณฑิต นิจถาวร

ประธานมูลนิธินโยบายสาธารณะเพื่อสังคมและธรรมาภิบาล

[email protected]

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.