อว.โชว์วิสัยทัศน์ ‘Education 6.0’ บนเวที EWF 2025 ดัน AI ปฏิรูปการศึกษา สู่อนาคตที่ยืดหยุ่น เท่าเทียมทุกคน
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เข้าร่วมการประชุม The 21st Annual Education World Forum 2025 (EWF) ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นเวทีการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีรัฐมนตรีจากกว่า 100 ประเทศเข้าร่วม เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดในการพัฒนาระบบการศึกษาสู่อนาคตภายใต้หัวข้อหลัก “From Stability to Growth: Building Stronger Bolder Better Education Together”
น.ส.ศุภมาส กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ โอกาสในการยกระดับฐานะทางสังคมที่ยังจำกัด และอุปสรรคนานัปการที่ขัดขวางการพัฒนาของชุมชนในพื้นที่ห่างไกล และกลุ่มผู้ด้อยโอกาส โดยทราบดีว่าเทคโนโลยีปัญญประดิษฐ์หรือเอไอ จะเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษา ประเทศไทยจึงได้วางนโยบายระดับชาติในเรื่อง “AI for Education” และริเริ่มโครงการสำคัญ “AI University” เพื่อวางรากฐานสู่ Education 6.0 ซึ่งเป็นระบบนิเวศแห่งการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น ทันสมัย และครอบคลุมทุกมิติ เหมาะสมกับบริบทของโลกอนาคต
น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า นอกเหนือจากการนำเทคโนโลยีเอไอมาประยุกต์ใช้แล้ว ประเทศไทยยังมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาให้มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผ่านโครงการสำคัญต่าง ๆ อาทิ โครงการพื้นที่นวัตกรรมการศึกษา (Education Sandbox) หรือหลักสูตรแซนด์บอกส์ การสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาในส่วนภูมิภาคใช้เครื่องมือดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในท้องถิ่นในหลายภาคส่วน เช่น เกษตรกรรม การท่องเที่ยว และธุรกิจขนาดเล็ก อันเป็นการรับประกันว่าประโยชน์ของการศึกษาจะสามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในเขตเมือง
น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ประเทศไทยได้เปิดตัว ระบบคลังหน่วยกิตแห่งชาติ (National Credit Bank) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ผู้เรียนสะสมและโอนหน่วยกิตระหว่างสถาบันการศึกษาได้ตลอดชีวิต การส่งเสริมโครงการสหกิจศึกษา (Cooperative Education Programme) เพื่อเชื่อมโยงผู้เรียนกับประสบการณ์จริงผ่านความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในอนาคต นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Skill Future Thailand จะเป็นแหล่งรวมหลักสูตรการเรียนรู้แบบแยกส่วนและมีความยืดหยุ่นสูง เพื่อสนับสนุนการเพิ่มพูนทักษะและการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ
“ความมุ่งมั่นและความพยายามเหล่านี้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาในระยะยาวของประเทศไทย ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมด้านทักษะของกำลังคนสำหรับภาคส่วนเศรษฐกิจสำคัญแห่งอนาคต อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ และ AI ขณะเดียวกัน ก็มุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ทุกคนมีส่วนร่วมโดยไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และผู้เรียนทุกคนมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ การบรรลุความเท่าเทียมในการศึกษามิได้จำกัดอยู่เพียงการขยายโอกาสในการเข้าถึงเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยระบบการศึกษาที่มีคุณธรรม จริยธรรม ยืดหยุ่น ปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นอนาคต และขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน”น.ส.ศุภมาส กล่าว
น.ส.ศุภมาส กล่าวต่อว่า ประเทศไทยจึงมุ่งมั่นที่จะวางรากฐานของระบบการศึกษาด้วยองค์ความรู้ด้านเอไอ และหลักการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้สร้างสรรค์ นักแก้ปัญหา และพลเมืองที่มีความรับผิดชอบในยุคดิจิทัล การสร้างสรรค์อนาคตของการศึกษาและเอไอ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออันแข็งแกร่งจากทุกภาคส่วน การแลกเปลี่ยนแนวคิด การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จะนำไปสู่ระบบการศึกษาที่ส่งเสริมศักยภาพของผู้คนและขยายโอกาสให้แก่ทุกคนอย่างแท้จริง ประเทศไทยไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการขยายโอกาสทางการศึกษาเท่านั้น แต่ต้องการสร้างระบบที่มีคุณธรรม ยืดหยุ่น และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแท้จริง เราต้องการให้ทุกคนมีศักยภาพเป็นผู้สร้างสรรค์ เป็นนักแก้ปัญหา และเป็นพลเมืองดิจิทัลที่มีความรับผิดชอบ