เมืองทอง ยูไนเต็ด ประกาศเล่นสุดความสามารถเพื่อขวางทางบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซิวแชมป์รายการที่ 3 ในซีซั่นนี้ แมตช์ชิงเอฟเอ คัพ 2024-25

เมื่อ 22 พ.ค. ที่ห้องเมต้า สโมสรราชพฤกษ์ นายยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โฆษกสมาคมร่วมแถลงความพร้อมช้าง เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างเมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด วันที่ 24 พ.ค.

อุทัย บุญเหมาะ ผู้ฝึกสอนสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “เราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เราเจอทีมในไทยลีกมาตลอด ทำผลงานได้ดีมาตลอด ในมุมมองสถิติเป็นอีกเรื่อง ที่ผ่านมาเราเป็นแค่ทีมรอง เกมนี้จะเป็นอีกเรื่อง สถานการณ์ก็เปลี่ยน นักเตะก็เปลี่ยน เราเป็นรองอยู่แล้ว แต่เราจะสู้ด้วยวิธีการของเรา”

“เราผ่านอุปสรรคมามากมาย เกมนี้เป็นเกมที่วิเศษของเรา เมืองทองจะหยุดแชมป์ที่ 3 ของ บุรีรัมย์ให้ได้ บุรีรัมย์มีตัวนักเตะที่ค่อนข้างสมบูรณ์ คุณภาพก็ใกล้เคียงกัน ความล้ามันเกิดขึ้นได้กับนักฟุตบอล แต่เขาสามารถทดแทนได้ เราเชื่อมั่นในทีมของเราว่าสามารถผ่านและคว้าแชมป์ได้”

“ก็ขอแสดงความยินดีกับการคว้าแชมป์ที่สองในฤดูกาลนี้ของบุรีรัมย์ ก็แสดงความเสียใจในเกมวันเสาร์นี้ด้วย ผมเชื่อว่าแฟนบอลเมืองทอง เตรียมรถแห่ไว้แล้ว เพื่อเอาถ้วยกลับไปที่ธันเดอร์โดม”

ด้าน สรวิทย์ พานทอง นักฟุตบอลสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “สำหรับผมรอบที่ผ่านๆมา น่าจะเป็นการเจอกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เป็นเกมที่ยากที่สุด เพราะต้องสู้ไปจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ เพื่อให้ได้ผล ก็เป็นเกมที่ยากพอสมควร พวกเราก็เตรียมตัวมากันค่อนข้างดี เตรียมวิธีรับมือบุรีรัมย์ บุรีรัมย์ เป็นทีมที่ดี แต่เราก็เป็นทีมที่ดีเหมือนกัน เรามีความกระหายที่จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้ บรรยากาศในทีมตอนนี้ก็ดี ทุกคนก็ตั้งใจซ้อม เพื่อรอเกมวันเสาร์นี้ ผมคิดว่าแฟนบอลทุกคนก็ตั้งตารอชม บุรีรัมย์-เมืองทอง เป็นบิ๊กแมตช์ของประเทศไทย ความกดดันก็มีแต่เราก็มีความมั่นใจ ผ่านความกดดันและไปถึงจุดนั้นให้ได้”

“จุดเด่นของบุรีรัมย์ คือนักเตะต่างชาติและไทยที่ดี แต่เมืองทองก็มีแทคติก และวินัยที่ดี รวมถึงหัวจิตหัวใจที่พร้อมสู้ ผมมองในมุมบวก ผมชอบบรรยากาศที่แฟนบอลมาเต็มสนาม เพราะเล่นแล้วสนุก ไม่ว่าจะกองเชียร์ บุรีรัมย์ ตะโกนด่า แต่เป็นกำลังใจ เราอยากจะเล่นเกมแบบนั้น ก็ต้องพยายามว่าเขาเชียร์ทีมไหน แฟนบอลมีผลแน่นอน ยิ่งเชียร์เราก็มีแรงวิ่ง และสู้ต่อ อยากให้แฟนบอลเมืองทองเข้ามาเยอะ เพราะสนามนัดชิงก็อยู่ใกล้สนามของเรา เดินทางไม่ไกล ก็อยากให้มาเชียร์กันเยอะๆ”

ขณะที่ สมาพร ผลบุตร ผู้อำนวยการสายงานฟุตบอลสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “การจับสลากถือว่าเป็นใจ ถือว่าดี แต่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น ต้องให้เครดิตกับทีมงานสต๊าฟและนักกีฬา เราไม่กดดัน เพราะอยู่สถานการณ์เข้าชิงบ่อย มองเป็นขวัญกำลังใจ ว่าเราได้ไปสองถ้วยแล้ว 3-4 ต้องมีมาแน่นอน”

“ทุกทีม และแฟนบอลหลายทีม อยากเชียร์เมืองทอง ใครก็อยากเห็นทีมที่หยุดบุรีรัมย์ แต่ก็ไม่มีใครหยุดเราได้ แชมป์ที่ 3 จะกลับไปที่ช้าง อารีนาแน่นอน ฝากถึงแฟนบอลเมืองทอง ก็สู้ๆนะคะ เจอเมืองทอง เขาต้องบอกว่านี่คือคู่ชิงในฝัน เราไมได้เจอกันนัดชิงนานแล้ว แฟนบอล มาให้กำลังใจได้ ไม่รู้ว่าแมตช์แบบไหนจะมีอีกกี่ครั้ง มากันเต็มสนามและส่งเสียงเชียร์ให้ดัง แฟนบอลบุรีรัมย์ ไม่ยอมอยู่แล้ว เราไม่ได้เตรียมรถแห่ แต่ตั้งแท่นรอถ้วยที่ช้าง อารีนา ไว้แล้วค่ะ”

ส่วน นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม นักฟุตบอลสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า “เกมที่ยากที่สุดน่าจะเป็นเกมที่เจอเชียงราย ที่ต้องต่อเวลาพิเศษ เพราะแทคติกของพวกเขาก็เหนียวแน่น มั่นใจอยู่แล้วครับ เป้าหมายเราคือคว้าให้ทุกแชมป์ การเจอกับเมืองทอง เป็นอีกทีมที่แข็งแกร่ง เรารู้กันดีว่าไม่ใช่เกมที่ง่าย ดังนั้นเราจะทำเต็มที่เพื่อเก็บแชมป์ที่ 3 ให้กับแฟนบอล และสโมสรของเรา เจอเมืองทอง เป็นเกมใหญ่ที่สุดของไทย ใครๆก็บอกว่าไม่มีใครยอมใคร เป็นทีมที่เราแพ้ไม่ได้ด้วย”

“จุดเด่นของเมืองทอง คือเป็นทีมที่รับแล้วรอสวนกลับ และสวนกลับได้น่ากลัว ทุกทีมต่างรู้ว่าบุรีรัมย์ มีขุมกำลังที่ใหญ่ เพราะต้องเล่นหลายรายการ ศักยภาพของทีมเรา ผู้เล่นและสต๊าฟ ทำงานเป็นระบบ โรเตชั่น นักเตะทุกคนสามารถทดแทนได้ เราก็ทำให้เห็นแล้วว่าเราเข้าชิงแล้วคว้ามาได้ 2 ถ้วยเหลืออีกสองถ้วยที่เราต้องเก็บให้ได้ นักฟุตบอลเวลาแข่ง อยากให้แฟนบอลเต็มสนาม เพราะเป็นบรรยากาศที่ ลงไปเล่นแล้วขนลุก แฟนบอลเต็ม เข้ามาให้กำลังใจ ไม่ว่าจะตะโกนกดดัน หรือเชียร์ เกมนี้จะเป็นกำไรของแฟนบอลแน่นอน ถ้าเราได้บอลแฟนบอลเราก็ส่งเสียงเชียร์ ให้กำลังใจเป็นแรงกระตุ้น แต่บางทีไปเตะมุมตรงโซนอีกทีม เขาก็มีหน้าที่ต้องกดดันเป็นธรรมดา เล่นขนาดนี้แล้วก็ไม่สั่นเป็นธรรมดา”

“อยากฝากแฟนบอลบุรีรัมย์ ไม่ว่าจะเดินทางมาจากบุรีรัมย์ หรือจังหวัดใกล้เคียงก็ฝากมาให้กำลังใจพวกเรากันเยอะๆ คิดว่าเกมนี้ ทั้งสองทีมจะเล่นเต็มที่และเป็นกำไรของคนดูแน่นอน”