ลูกา โมดริช กองกลางจอมเก๋าชาวโครเอเชีย ยืนยันผ่านทางโซเชียลมีเดียว่าเขาจะแยกทางกับ เรอัล มาดริด หลังจบฤดูกาลนี้
ดาวเตะวัย 39 ปี จะหมดสัญญากับ “ราชันชุดขาว” ช่วงซัมเมอร์นี้ แม้เขาต้องการอยู่กับสโมสรต่อไป แต่ดูเหมือนว่าทีมต้องการจะถ่ายเลือดใหม่โดยใช้ผู้เล่นอายุน้อยเป็นแกนกลางมากกว่า
โดย โมดริช ยืนยันว่าเขาจะอยู่ช่วยทีมในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกที่จะเริ่มแข่งขันในวันที่ 14 มิถุนายน ไปจนถึง 13 กรกฎาคม แต่หลังจากนั้นก็จะถึงเวลาแยกทางจากกัน
“เวลาได้มาถึงแล้ว โมเมนต์ที่ผมไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่นี่คือฟุตบอลและทุกสิ่งในชีวิตมีจุดเริ่มต้นและจุดจบ วันเสาร์นี้ผมจะลงเล่นเกมสุดท้ายที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว” โมดริช เริ่มกล่าว
“ผมย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2012 ด้วยความปรารถนาที่จะได้อยู่ภายใต้สีเสื้อของทีมที่ดีที่สุดในโลก และผมก็มาพร้อมกับความทะเยอทะยานที่จะไขว่คว้าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่ผมไม่เคยจินตนาการถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย”
“การเล่นให้กับ เรอัล มาดริด เปลี่ยนแปลงชีวิตผมในฐานะนักเตะและในฐานะคนๆนึง ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งในยุคที่ประสบความสำเร็จที่สุดของสโมสรที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์”
“ผมขอขอบคุณสโมสรจากก้นบึ้งหัวใจผม โดยเฉพาะท่านประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ, เพื่อนร่วมทีม โค้ชและทุกคนที่ช่วยผมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา”
“ช่วงหลายปีที่ผ่านมาผมพบกับโมเมนต์อันไม่น่าเชื่อ, การคัมแบ็คที่ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้, นัดชิงทั้งหลาย, การฉลองแชมป์และค่ำคืนอันมหัศจรรย์ที่เบร์นาเบว เราคว้ามาทุกอย่างและผมก็แฮปปี้เป็นอย่างมาก”
“แต่ที่เหนือกว่าแชมป์และชัยชนะ ผมแบกรับความรักจากแฟนบอล มาดริด ทุกคนไว้ในใจผม ไม่รู้จะอธิบายความสัมพันธ์กับคุณที่พิเศษยังไงดี รวมถึงกำลังใจ ความเคารพและความรักที่ผมได้สัมผัส ผมจะไม่มีทางลืมทุกเสียงปรบมือและความรักในทุกครั้งที่พวกคุณแสดงให้ผมเห็น”
“อำลาด้วยความรู้สึกเต็มเปี่ยมในจิตใจ เต็มไปด้วยความภูมิใจ, คำขอบคุณและความทรงจำที่ไม่มีทางลืม แล้วถึงแม้ผมจะไม่ได้สวมชุดแข่งนี้แล้วหลังจบศึกชิงแชมป์สโมสรโลก ผมจะเป็นแฟนบอล มาดริด ตลอดไป” มิดฟิลด์ชาวโครแอต ปิดท้าย
สำหรับ ลูกา โมดริช ผ่านการคว้าแชมป์กับ “ราชันชุดขาว” มากมายนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในปี 2012 โดยลงสนามไป 590 นัดและทำได้ 43 ประตู ได้แชมป์ลาลีก้าไป 4 สมัย และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 6 สมัย รวมถึงแชมป์โคปา เดล เรย์ 2 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 5 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 5 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 5 สมัย และอินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ อีก 1 สมัย