เอสเอ็มอีภาคตะวันออก หวั่นเหตุไทย-กัมพูชา เพิ่มแรงกดดันกำลังซื้อหายกว่า 30%

นายพิษณุ อุชุวัฒน์ ประธานกิติมศักดิ์สมาพันธ์เอสเอ็มอีภาคตะวันออก เปิดเผยถึงกรณี จ.จันทบุรี ใช้กฎอัยการศึก ระงับนักท่องเที่ยว เข้าจุดผ่านแดนโป่งน้ำร้อน-คลองใหญ่ นั้น เบื้องต้นยังค้าขายได้ตามปกติ เพียงแค่เข้มงวดการให้วีซ่า ซึ่งเป็นจุดที่มีการเข้าออกวันละหลายพันคน เพราะเป็นจุดที่มีตลาดการค้าใหญ่และบ่อนกาสิโน

โดยการค้าขายและความกังวลต่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มีมาหลายวันแล้ว และมีผลทางจิตวิทยาต่อการค้าขายและกำลังซื้อ รวมถึงการเดินทางข้ามแดนภายในวันเดียว สำหรับการค้าในจ.ตราด ยังไม่ได้รับผลกระทบ ด้วยยังมีเกาะกง ซึ่งเป็นแหล่งค้าขายใหญ่อยู่

อย่างไรก็ตาม จากได้พูดคุยของนักธุรกิจ เกรงว่าจะยืดเยื้อในแง่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และกินเวลานาน กว่าการค้าที่เชื่อว่าอย่างไรก็ยังมีอยู่ สะท้อนได้จากความกังวลของแรงงานกัมพูชาที่เข้ามารับจ้างในไทย กังวลต่อความเข้มงวดใบอนุญาตทำงานในไทย

เนื่องจากภาคตะวันออกยังต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก เป็นสัดส่วน 70-80% ส่วนใหญ่เป็นคนกัมพูชา เมียนมา และลาว โดยเฉพาะที่มารับจ้างรายวัน ตามตลาดสด รับเหมาก่อสร้าง ทำงานในฟาร์ม บ่อปลา และอุตสาหกรรมที่มีกลิ่นแรง อย่าง แปรรูปอาหารทะเล เป็นต้น

“แม้ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว กำลังซื้อในภาคตะวันออกทุกจังหวัด ลดหายไปกว่า 30% มาตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะขอบชายแดนตัวเลขน่าจะเพิ่มอีกในระยะจากนี้ ผลต่อเนื่องจากหลายปัจจัยทั้งส่งออก โรงงานอุตสาหกรรมถูกกว้านซื้อโดยทุนต่างชาติ และนำเข้าทุกอย่างแม้แต่แรงงาน อีกทั้งเจอสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพเข้ามาตีตลาดไทย ทำให้เงินสะพัดในพื้นที่ลดลง เรื่องนี้อยากให้รัฐบาลเร่งมาดูแล ” นายพิษณุ กล่าว