ทนายอั๋น ขีดเส้นตายบี้ DSI รับกรณีรุกที่ดินเขากระโดงเป็นคดีพิเศษภายในสิ้นเดือน ก.ย. หลังลือสะพัดมีคำสั่งเบรก แย้มเตรียมงัดหลักฐานเด็ดเปิดโปง
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 ก.ย.2568 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่ง ชะลอคดี และเดินหน้าตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดโดยยืนหยัดความเป็นอิสระไม่ยอมให้แรงกดดันทางการเมืองเข้ามาครอบงำ พร้อมเปิดเผยเหตุผลและกรอบเวลาการดำเนินการต่อสาธารณชนอย่างโปร่งใสต่อไป
กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่าดีเอสไอจะชะลอการดำเนินการตามกฎหมายในคดีเลือก สว. และคดีเขากระโดง จนกว่าจะได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ โดยมี นายสมเกียรติ เพชรประดับ ผอ.ส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์ กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทนายอั๋น บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตามที่ปรากฏในสื่อสารมวลชนโดยทั่วไปว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีคำสั่งให้ชะลอการดำเนินคดีการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พ.ศ.2567 หรือคดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดงออกไปโดยไม่มีกำหนด โดยให้เหตุผลว่าต้องรอจนกว่าจะมี รมว.ยุติธรรม คนใหม่มารับตำแหน่ง และรวมถึงคดีสนามบินที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดยตนได้มีโอกาสโทรศัพท์คุยกับผู้บริหารระดับสูงของดีเอสไอ ก็ทราบความว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ในฐานะที่ตนเป็นคนทำเรื่องนี้มาตลอด พอทราบเหตุผลที่ชะลอออกไปเพียงเพราะรอ รมว.ยธ. คนใหม่ ตนก็ถามว่าแล้ว รมว.ยธ. คนใหม่เป็นใคร สังคมก็ลือว่าเป็นลูกหม้อของปราสาทสายฟ้า ซึ่งเป็นคำจาก สส.คนหนึ่งของพรรคประชาชนที่พูดไว้
และสังคมยังให้ฉายาว่าเป็นลูกน้องของเขากระโดง บางคนเปรียบเทียบถึงว่าอยู่ในหม้อแล้วมีผ้าเเดงสักยันต์เขมรกำกับไว้ ดังนั้น คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาตัวจริง ก็คือคนที่ถูกคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 คน แจ้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการฮั้วเลือก สว. อีกทั้งกำลังอาจจะถูกขับไล่ฐานบุกที่หลวง
เช่นนี้เข้าหลักการเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ของกฎหมายหรือไม่ เหตุใดต้องรอ นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงสัญญาณอันตราย ที่ทำให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกครอบงำ โดยนักการเมือง ตนและพี่น้องประชาชนทั่วประเทศไม่เห็นด้วย ทั้งนี้ ตนขอประกาศจุดยืนให้ดีเอสไอต้องทำคดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดง และคดีรันเวย์โดยเป็นอิสระ ไม่ถูกครอบงำจากนักการเมืองหรือพรรคการเมือง
ทนายอั๋น กล่าวอีกว่า กฎหมายจะต้องไม่เป็นเครื่องมือของนักการเมือง และตนจะไม่ยอมให้การเปลี่ยนตัว รมว.ยุติธรรมคนใหม่ มาเป็นข้ออ้างในการไม่ทำคดี และข้าราชการทั้งหลายอย่าเอาตำแหน่งแห่งหนเป็นที่ตั้ง อย่าเห็นแต่ยศฐาบรรดาศักดิ์มาทำลายความหวังของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพราะถูกกลุ่ม สว.อ้างว่า มีการไปครอบงำดีเอสไอ และบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ตนอยากให้รู้ว่าระหว่างทวีกับ รมว.ลูกหม้อเขากระโดงคนใหม่ ใครมีผลประโยชน์ขัดกันที่ใกล้เคียงกว่ากัน จึงไม่รู้ว่าจะรอนโยบายจาก รมว.ยธ. คนใหม่ทำไม ตนไม่ยอมหรอก
โดยตนได้มีโอกาสคุยกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หรือพี่ยัก หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีเขากระโดง ซึ่งท่านก็ได้แจ้งกับตนว่า เรื่องนี้ยังไม่มีสัญญาณสั่งใด ๆ มา ก็แปลว่าต้องเร่งเครื่องเต็มที่ และหากมองตามไทม์ไลน์ เรื่องรุกที่ดินเขากระโดง จะต้องถูกรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว ตนขอให้เวลาดีเอสไอถึงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ที่จะต้องสรุปเรื่องที่ดินเขากระโดงเป็นคดีพิเศษ ถ้าช้ากว่านั้นตนมองเป็นเรื่องแปลก เพราะไทม์ไลน์ไม่ตรง ส่วนคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ถ้าพยานไม่มาให้ปากคำดีเอสไอตามหมายเรียกพยานครั้งแรก ก็ต้องออกหมายเรียกพยานครั้งที่สอง แต่ถ้ายังไม่มาให้ความร่วมมืออีก ดีเอสไอก็ต้องพิจารณาดำเนินคดี
ทนายอั๋น กล่าวอีกว่า โดยก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ได้รับคำสั่งให้เก็บกระเป๋า ทิ้งตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับกรมฯ เหมือนมีสัญญาณให้ถอยทัพ อย่างไรก็ต้องจับตาดูต่อไป จะไปรอนโยบายทำไม ส่วนในช่วงต้นเดือน ต.ค. ตนจะเปิดหลักฐานเด็ดเกี่ยวกับนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่จะนำไปเปิดที่ กกต. โดยเกี่ยวกับเรื่องการทุจริตเงินหลวงไปทำผิดระเบียบ และจะขอให้ กกต. ตั้งคณะกรรมการสอบสวน
และในส่วนของ รมว.ยธ.คนใหม่ ตนจะทำแถลงการณ์ถึงท่านเช่นกัน เพราะตนเป็นคนบุรีรัมย์ ท่านก็เป็นคนบุรีรัมย์ เราก็รู้ ๆ กันว่าท่านเป็นใคร มาจากไหน และตนพร้อมเอาชีวิตแลกเป็นเดิมพัน ไม่เกรงกลัวอะไร
ด้าน คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อั้งยี่-ฟอกเงิน สว. เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ในฐานะ 1 ในชุดคณะพนักงานสอบสวนที่ได้รับมอบหมายลงพื้นที่สอบปากคำพยานกว่า 1,200 ราย กระจายตามจังหวัดต่าง ๆ รวม 45 จังหวัด ในส่วนที่ตนรับผิดชอบ ยังไม่ได้รับทราบถึงคำสั่งให้ถอนทีมกลับกรุงเทพฯ ยังคงอยู่ในพื้นที่เดินหน้าสอบปากคำพยานให้ครบถ้วน เช่นเดียวกับทีมชุดอื่น ๆ ที่ก็ยังคงสอบปากคำพยาน อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ มีเพียงกรณีมีการเลื่อน หรือพยานไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมาย และขอนัดหมายใหม่เท่านั้น จึงไม่ทราบถึงที่มาของกระแสข่าวดังกล่าว