ดร.นิเวศน์ ไม่แปลกใจเศรษฐกิจไทยจะถูกเพื่อนบ้านแซง หล่นอันดับ 5
GH News October 18, 2025 12:00 PM

“ดร.นิเวศน์” ชี้ไม่แปลกใจรายงาน IMF เผยขนาดเศรษฐกิจไทยจะตามหลังอินโดนีเซีย-ฟิลิปปินส์-สิงคโปร์-เวียดนาม ในอีก 5 ปีข้างหน้า หล่นจากอันดับ 2 เป็นอันดับ 5 เหตุเศรษฐกิจโตต่ำเตี้ยแค่ 2-3% ต่างจากเพื่อนบ้านที่โตได้ 5-7% เชื่อป้องกันยาก จี้เร่งรื้อโครงสร้าง แก้ปมการเมืองไม่เอื้อ

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เผยแพร่รายงานในการประชุมประจำปี โดยระบุว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า ขนาดเศรษฐกิจไทยจะตกลงมาอยู่ที่อันดับ 5 จากปัจจุบันอันดับ 2 ในภูมิภาค ตามหลังอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม โดยจะมีขนาดจีดีพี 654,084 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 21 ล้านล้านบาท)

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า รายงาน IMF ที่ออกมา ตนเองไม่แปลกใจเลย เพราะถ้าดูตามตัวเลขเศรษฐกิจของไทยเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3% ต่อปี ส่วนประเทศอื่นเติบโต 5-7% ต่อปี หรืออย่างเวียดนามอาจจะโตถึง 7-8%

“ผมคิดว่า การจะป้องกันไม่ให้ไปถึงจุดนั้น ก็ไม่ง่ายเลย เพราะการที่จะเร่งอัตราการเติบโต ต้องอาศัยการปฏิรูปที่ค่อนข้างใหญ่ เพราะปัญหาหลัก คือ ประชากรแก่ตัวและลดลง โดยการเติบโตของเศรษฐกิจ ถ้าจะเพิ่มขึ้น มันขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ ประชากรวัยทำงานเพิ่มขึ้น และต้องเพิ่มผลิตภาพของคนทำงาน ซึ่งอันแรกนี้หมดแล้ว ผมว่าโอกาสที่เราจะเพิ่มคนน่าจะไม่มีแล้ว มีแต่ว่าจะไม่ลดลงเท่านั้นเอง ส่วนอันที่สองคือ เรื่องผลิตภาพส่วนใหญ่ก็อิงกับการใช้เทคโนโลยีและคุณภาพการศึกษา”

นอกจากนี้ ยังต้องมีการพัฒนาสาธารณูปโภค แต่ก็ดูเหมือนทำได้ยาก เพราะไม่มีงบประมาณส่วนนี้ โอกาสที่จะทำเมกะโปรเจกต์ ถือว่ายาก จะให้เอกชนลงทุน เอกชนก็มองว่าถ้าไม่มีรัฐบาลหนุน ก็อาจจะมีปัญหาเยอะ ถึงเวลา บอกว่าทำไม่ได้ ก็จะเกิดปัญหาอีก เรื่องการศึกษาและคุณภาพแรงงานต่าง ๆ มีความสำคัญ แต่ปัจจุบันการศึกษาของไทยยังเป็นแบบเก่า จากข้อมูลตัวเลขเรื่องคุณภาพ เช่น PISA ที่ใช้วัดกันทั่วโลก ไทยก็ไม่ได้ดีขึ้นและอยู่ในเกณฑ์ต่ำ

ดร.นิเวศน์ กล่าวด้วยว่า ไทยยังมีปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมือง ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เกิดความมีเสถียรภาพ เพราะรัฐบาลพร้อมจะล้มได้ทุกเมื่อ ถ้ามีคนไปแจ้งอะไรก็สามารถล้มได้ง่าย ๆ ไม่สามารถทำการปฏิรูปให้เกิดผลในระยะยาวได้ ทำให้เห็นรัฐบาลที่เข้ามามีแต่นโยบายระยะสั้น ซึ่งไม่ช่วยอะไรในระยะยาว ทั้งผลิตภาพ คุณภาพคน หรือการศึกษา

“สิ่งที่น่ากังวลมากกว่านั้น คือ ไทยอาจจะเติบโตไม่ถึง 2-3% ด้วยซ้ำ เพราะเดิมทีคนของเรายังไม่ลดลง แต่หลังๆ จำนวนประชากรเริ่มลดลงแล้ว ตอนนี้ด้านการเมืองอาจจะมี movement หน่อย แต่ต้องรอดูว่าการเมืองจะสามารถทำสำเร็จได้หรือเปล่า คือค่อนข้างลำบาก เพราะยังไม่เห็นรัฐบาลหรือนักการเมืองที่พูดเรื่องพวกนี้ ซึ่งตรงนี้มันสำคัญ ตอนนี้จะทำแค่ในระยะสั้นหรือจะทำเร็วๆ มันไม่ได้เพราะเงินเราไม่ค่อยมีแล้ว ถ้าจะทำระยะยาวต้องอดทน ก็อาจจะเหนื่อยหน่อย” กูรู VI กล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.