ในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา (พ.ศ.2484-2488) เครื่องบินข้าศึกเข้ามาทิ้งระเบิดเพลิงตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ รวมถึงสถานีรถไฟธนบุรีที่บางกอกน้อย ทำให้วัดอมรินทราราม ซึ่งอยู่ติดกันได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แม้แต่พระอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโบสถ์น้อยก็ได้รับความเสียหายด้วย
เมื่อสงครามยุติลงในปี พ.ศ.2488 จากความรุนแรงของระเบิด เป็นผลให้เศียรของหลวงพ่อโบสถ์น้อยที่ปั้นด้วยปูนถึงกับหักพังลงมา
ทางวัดจึงเริ่มดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์ปูชนียวัตถุและเสนาสณะสถานต่างๆ พร้อมประกอบพิธีต่อเศียรจนเป็นที่เรียบร้อยในปี พ.ศ.2488
ในการนี้ วัดอมรินทรารามได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อโบสถ์น้อย ประกอบด้วย เหรียญ, พระเนื้อดิน และพระเนื้อผง เป็นที่ระลึกแก่ผู้บริจาคทรัพย์สมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์
ส่วนพระเนื้อผง สร้างแบบสามเหลี่ยมและสี่เหลี่ยม สำหรับคณะกรรมการเท่านั้น
เหรียญหลวงพ่อโบสถ์น้อย พ.ศ.2488 ถือเป็นเหรียญปั๊มรุ่นแรกของวัด
ลักษณะเป็นทรงรูปไข่ หูเชื่อม ยกขอบแบบเส้นลวดแบนทั้งหน้าและหลัง
ด้านหน้าตรงกลางเป็นรูปจำลองหลวงพ่อโบสถ์น้อย ประทับนั่งเหนืออาสนะฐานหน้ากระดาน 5 ชั้น ห่มจีวรริ้วแบบพาดสังฆาฏิ พระพักตร์คมชัด พระรัศมีเป็นแบบเปลงเพลิง มีอักขระขอมโดยรอบ คั่นกลางด้วยวงกลมซ้อนกัน 2 วง
ด้านบนอ่านว่า “สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ” ซึ่งเป็น ‘หัวใจพระอภิธรรม’ ด้านล่างอ่านว่า “อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ” อันเป็น ‘หัวใจนวหรคุณ’
ด้านหลังตรงกลางเป็น “ยันต์เฑาะว์สมาธิ” โดยรอบมีอักษรไทยแบ่งครึ่งด้วยวงกลมเช่นกัน ด้านบนจารึกพระนาม “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ด้านล่างเป็นชื่อวัด “วัดอมรินทราราม (บางว้า)”
ประการสำคัญ วัตถุมงคลทั้งหมดได้รับการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้น อาทิ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อโชติ วัดตะโน, หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง, หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก และหลวงพ่อเส่ง วัดน้อยนางหงส์ เป็นต้น
ได้รับการยกย่องให้เป็นเหรียญพระพุทธยอดนิยมของเมืองไทย