สภาฯผ่านร่างพ.ร.บ.สันติสุขวาระสาม ‘ณัฐวุฒิ’เพิ่มมาตราเปิดทางเยาวชน เข้ากระบวนการฟื้นฟูแทนโทษอาญา
GH News October 21, 2025 09:20 PM

สภาฯ ผ่านร่างพ.ร.บ.สันติสุขวาระสาม ‘ณัฐวุฒิ’ เพิ่มมาตรา 9/1 เปิดทางเยาวชนต่ำกว่า 18 ปี เข้ากระบวนการฟื้นฟูแทนโทษอาญา อ้าง กลัวสว.ตีตก ด้าน ‘ทนายแจม’ อัดเขียนเลี่ยงบาลี ชี้ อย่าเลือกนิรโทษกรรมเฉพาะบางกลุ่ม

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข ฉบับที่… พ.ศ. … ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นประธาน พิจารณาแล้วเสร็จแล้ว

ต่อมาเวลา 17.20 น. เป็นการพิจารณามาตรา 9/1 ซึ่งคณะกรรมาธิการเพิ่มขึ้นใหม่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานกรรมาธิการ ชี้แจงว่า เนื่องจากการประชุม ร่วมกันของวิปทั้งสองฝ่าย มีมติเห็นชอบให้เพิ่ม ข้อความเล็กน้อยว่า กรณีผู้กระทำความผิดอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ระหว่างร้องขอไม่ว่าผู้นั้นจะถูกดำเนินคดีหรือแจ้งข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ ไม่ว่าคดีอยู่ในขั้นตอนใด และเพิ่มวรรคท้ายว่าให้จัดทำแผนแก้ไขบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิด โดยตัดคำว่า “เสนอ” ออกและใช้คำว่า “ส่ง” แทน คือส่งแผน พร้อมความเห็นไปยังพนักงานอัยการ เดิมเป็น “เพื่อพิจารณา” แต่ตัดออกเป็น “เพื่อใช้มาตรการพิเศษ” แทนการดำเนินคดีอาญา

นอกจากนี้ กรณีพนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยตัดคำว่า “ขอ” แล้วใส่คำว่า “เพื่อ” ให้ใช้มาตรการ และเพิ่มคำว่า “และ” สั่งยุติคดี โดยไม่ต้องมีคำพิพากษา ตามกฏหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัว ส่วนที่เหลือเป็นไปตามข้อความเดิม

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า การเพิ่มมาตรานี้มาจากการเห็นว่าการเปิดโอกาสหยิบยื่นความปรารถนาดีให้กับเยาวชน แม้เขาจะถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดก็ตาม แต่หากวันกระทำการอายุไม่ถึง 18 ปี เราถือว่าสภาฯ นี้ควรจะพิจารณาและเห็นชอบร่วมกัน ตนเสนอสาระนี้โดยผ่านการพูดคุยกับหลายองค์กรและผู้รู้หลายท่าน ไม่มีการขัดต่อหลักการของร่างทั้ง 3 ร่างที่สภารับมาในวาระแรก ไม่ใช่การเขียนกฎหมายขึ้นใหม่ หรือเสริมกล้ามเนื้อสร้างอำนาจให้ฝ่ายบริหารที่จะไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หรือจะมีอำนาจเหนือกว่า การใช้ดุลพินิจของฝ่ายตุลาการ

ด้าน น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะกรรมาธิการ เสนอว่า แม้จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว แต่ก็ยังมีการยื่นให้ศาลใช้ดุลพินิจอยู่ดี ถือเป็นการออกกฏหมายในการเลี่ยงบาลี โดยใช้กลไกของศาลเยาวชนแทน ตนยังยืนยันเหมือนเดิมว่ากฎหมายนี้แม้จะผ่านไปแล้ว ก็ไม่สามารถลบล้างได้ วันนี้เราพยายามนิรโทษกรรมให้กับบางคนบางกลุ่ม พยายามจัดการเรื่องการเงินให้กับบางคนและทิ้งคนอีกกลุ่มหนึ่งไว้ข้างหลัง

ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าว ย้ำว่าการเสนอร่างในมาตรานี้ ไม่ได้มีเจตนาเลี่ยงบาลีแต่อย่างใด แต่เป็นการพยายามให้กฎหมายนี้เดินหน้าและผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภาในที่สุด เราไม่มีเวลามากกว่านี้ เหลือวันนี้เพียงวันเดียวเพราะหากจะเข้าวุฒิสภาให้ทันภายในสมัยประชุมนี้ จะต้องพิจารณาให้เสร็จวันนี้ เพื่อมีการสรุปรายงานและส่งไปให้วุฒิสภาภายในวันที่ 22 ตุลาคม

นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนจึงเสนอให้ทุกฝ่ายหารือกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนและเข้าใจตรงกันในสภาว่าเมื่อผ่านออกไปแล้ว วุฒิสภาจะไม่คว่ำหรือตีกลับมา ยืนยันว่าไม่เคยมีการตอบสนองข้อเสนอนี้หรือการหารือกันก็ไม่ได้ตอกย้ำให้เราเชื่อมั่นว่าหากไม่ได้เสนอร่างแบบนี้ไปแล้วจะสามารถผ่านวุฒิสภาได้ ซึ่งตนถามไป 3 รอบ แต่ก็ไม่มีใครยืนยัน เพราะหากวุฒิสภาตีกลับมาหมายถึงตกทั้งฉบับ

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าเจตนาตั้งต้นของกรรมาธิการทุกคนไม่ต่างกัน เรารู้สึกเหมือนกันว่าการเปิดโอกาสหยิบยื่นความปรารถนาดีให้เยาวชนเป็นเรื่องพึงกระทำและต้องกระทำได้ เพียงแต่วิธีการที่จะให้ผ่านการบังคับใช้ มันปรากฏขึ้นเช่นนี้ และคงมีการตั้งคำถามว่าแล้วตนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าที่ปรากฏอยู่ในมาตรา 9/1 จะผ่านวุฒิสภา กรรมาธิการส่วนหนึ่งบอกตนว่า หากไม่ขัดกับหลักการสำคัญที่สภาฯ นี้รับไปแล้วทั้ง 3 ร่าง วุฒิสภาก็เปิดใจรับได้ และสามารถผ่านร่างนี้จากวุฒิสภาไปได้ ฉะนั้น ตนจึงได้นำเสนอเช่นนี้ และคิดว่างานนี้คงหลีกไม่พ้นที่จะถูกวิจารณ์

ฟากนายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวสนับสนุนการอภิปรายของน.ส.ศศินันท์ ว่า ไม่ว่าจะคิดในแง่มุมไหน ไม่ว่าจะสร้างสันติสุขโดยรื้อความผิดให้กับทุกฝ่าย ทุกสี เรื่องร้ายแรงขนาดไหนก็นิรโทษกรรมได้ แต่พอกับเยาวชน อัตราโทษต่ำกว่าข้อหาก่อการร้ายมาก เราควรทำให้เบ็ดเสร็จกว่าได้หรือไม่ ที่อ้างว่ามีเวลาน้อย สภาต้องผ่านภายในวันนี้ เรายังมีอีกหลายชั่วโมง ควรให้โอกาสเยาวชนมากกว่านี้ได้หรือไม่ มิเช่นนั้นมันจะกลายเป็นบาปติดตัวพวกเราไปอีกยาวนานว่าวันหนึ่งเรานิรโทษกรรมคนสองทศวรรษที่สู้กัน และหลายกรณีไม่ใช้หลักนิติธรรม ขัดหลักนิติธรรมอย่างร้ายแรง ทำให้ประเทศเสียหายอย่างยับเยิน อัตราโทษมหาศาลถึงขั้นประหารชีวิตแต่เราก็นิรโทษกรรมให้หมด พอมากับเด็กยากเย็นขนาดนี้ได้อย่างไร

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจว่าฐานความผิดเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่อัตราโทษก็ต่ำกว่าเรื่องที่เรานิรโทษกรรมไปอย่างง่ายดาย ที่อ้างว่าเดี๋ยววุฒิสภาจะเห็นชอบเพราะขาดหลักการ ตนยืนยันว่าไม่ได้ขัดหลักการทั้ง 3 ฉบับมีอย่างน้อย 2 ฉบับที่ไม่ได้ระบุฐานความผิดอะไรไว้ เขาให้นิรโทษกรรมเพื่อสันติสุขเราก็ควรใช้หลักการนั้นก็ได้ หากจะต้องเสี่ยง เราก็ต้องเสี่ยงด้วยกัน แต่ละฝ่ายก็ไปพูดคุยกัน จะได้อานิสงส์จากร่างพ.ร.บ.นี้ จึงขอให้กรรมาธิการพิจารณาอีกครั้งได้หรือไม่ เพราะเชื่อว่าหากจะโหวตก็ต้องผ่านอยู่แล้ว แต่เวลามีคนมาศึกษาจะมีการพูดถึงกรรมาธิการและสภานี้ไปอีกนาน และเราจะตอบเขายากมากว่า มันเป็นเรื่องความยุติธรรมจริงแค่ไหน

ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในฐานะที่ตนร่วมหารือด้วยเห็นควรจะมีการแก้ไขให้รอบคอบกว่านี้ และควรจะมีการบันทึกเจตนารมณ์ไว้ด้วยว่า จุดประสงค์ที่เราแก้เพื่อนำอำนาจให้คณะกรรมการ ส่งเรื่องไปยังศาลเพื่อให้ยุติคดี ไม่ใช่ให้ใช้ดุลยพินิจ หากจะต้องมีการตีความ บันทึกเจตนารมณ์นี้จะช่วยให้ศาลนำไปใช้พิจารณา

อย่างไรก็ตาม นายเผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล รอง เลขาธิการประธานศาลฎีกา ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างมาก ชี้แจงว่า เรามีช่องทางช่วยเยาวชนเหล่านี้ด้วยการเสนอความเห็นของคณะกรรมการฯ และแผนฟื้นฟูที่คณะกรรมการฯ จัดทำ ยืนยันว่ามาตรานี้เขียนเพื่อหาทางออกของข้อจำกัดในมาตรา 3 และยังมีกฎหมายอื่นที่เอามาใช้ได้เพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้กระทำความผิดที่เป็นเยาวชนที่จะได้รับการสั่งไม่ฟ้องหรือหากฟ้องแล้ว คดียังไม่ถึงที่สุดหรือยุติโดยไม่ต้องมีคำพิพากษา

หลังจากถกเถียงกันที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมขอกรรมาธิการเสียงข้างมาก 276 ต่อ 1 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 2

ส่วนมาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 สมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติไม่ติดใจ และได้ลงมติเห็นด้วยกับที่กรรมาธิการแก้ไข

ส่วนบัญชีท้ายซึ่ง กมธ. แก้ไข เพิ่มคดีความผิดรวม 34 กรณี ซึ่งรวมถึง คดีสำคัญทางการเมือง ผู้สงวนคำแปรญัตติไม่ติดใจ แต่นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคปชน. ได้เสนอให้ตัดบัญชีแนบทางออก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ขณะที่นายนิกร จำนง กมธ.เสียงข้างมาก ยังคงยืนตามที่เพิ่มเติมเพราะคนที่โดนคดีเสนอเองและพิจารณาเติมให้ยอมรับว่าอาจจะมีปัญหาข้ผิดพลาดขึ้นได้ แต่ทำดีที่สุดแล้วละเอียดรอบคอบที่สุดแล้ว

ขณะที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. อภิปรายเสนอให้เพิ่มต่อท้ายด้วยประโยคว่า “รวมถึงคดีมาตราอื่นที่เป็นคดีการชุมนุมทางการเมืองหรือแสดงออกทางการเมืองที่ไม่กล่าวตามบัญชีแนบท้ายนี้” ซึ่งนายนิกรชี้แจงว่า หากเขียนปลายเปิด เหมือนตีเช็คเปล่าอาจเกิดผลเสียมากกว่า จึงยืนยันตามการพิจารณาของกมธ.

ต่อจากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระ 3 ว่าจะเห็นชอบทั้งฉบับหรือไม่ โดยมติที่ประชุม 280 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง ขั้นตอนจากนี้จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.