เตะถ่วงร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด
GH News November 23, 2025 08:11 PM

ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. … เป็นมหากาพย์นับตั้งแต่ประเทศไทยเผชิญวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 แม้ร่างกฎหมายอากาศสะอาดจะผ่านพ้นขั้นตอนการพิจารณาในชั้นสภาผู้แทนราษฎรและผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา (สว.) ในขั้นรับหลักการแล้ว ปัจจุบันเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในคณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) ของสมาชิกวุฒิสภา

แต่ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสังคมอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) แถลงไม่เห็นด้วยและแสดงความกังวลต่อร่างกฎหมายที่ขาดการประเมินผลกระทบกฎหมาย โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด  นอกจากนี้ กรรมาธิการวุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่มีมติให้ขยายเวลาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดไปอีก 30 วัน จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2569

ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้ภาคประชาชนผู้ผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด แสดงความกังวลว่า การแถลงของ กกร. อาจเป็นการทำให้การพิจารณากฎหมายนี้ล่าช้าและไม่ทันเวลาก่อนการประกาศยุบสภาในปีหน้าของอนุทิน ชาญวีรกูล  นายกรัฐมนตรี เหตุนี้ เครือข่ายเยาวชนเพื่ออากาศสะอาดเคลื่อนไหวยื่นจดหมายเปิดผนึกให้กับประธาน กมธ.สว. พิจารณาร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด

ล่าสุด เครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทยแถลงการณ์แสดงจุดยืนของภาคีเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสร้างความเข้าใจและให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. ….และเรียกร้องการเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. ของวุฒิสภา ใน 5 ประเด็น ดังนี้

1.ความซ้ำซ้อนของกฎหมาย ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ไม่ได้ซ้ำซ้อนกับกฎหมายอื่นที่บังคับใช้อยู่ก่อนแล้ว แต่อุดช่องโหว่กฎหมายเดิมที่บังคับใช้โดยขาดการบูรณาการและไม่สามารถแก้ปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ รวมทั้งยังไม่เพียงพอในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่มีลักษณะเฉพาะและเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง

2.การมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในคณะกรรมการ  ภาคธุรกิจเอกชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในคณะกรรมการนโยบายเพื่ออากาศสะอาดและคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ตามที่ได้ระบุไว้ในร่างกฎหมายอากาศสะอาด ซึ่งกำหนดให้ภาคธุรกิจเอกชนเป็นองค์ประกอบบังคับการที่ร่างกฎหมายไม่ระบุชื่อองค์กรใดองค์กรหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นความตั้งใจที่จะเปิดกว้างให้ภาคธุรกิจเอกชนที่หลากหลายสามารถเข้าร่วมได้อย่างทั่วถึง โดยไม่มีการผูกขาด

3.เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์และต้นทุนทางธุรกิจ ข้อกังวลว่าจะสร้างภาระต้นทุนทันที เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ที่จริงแล้ว ร่างกฎหมายอากาศสะอาดได้บัญญัติถึงมาตรการสนับสนุนส่งเสริม และช่วยเหลือผู้ประกอบการไว้อย่างชัดเจนและเป็นระบบ เช่น การให้เงินอุดหนุน และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หลักการนี้จะช่วยสนับสนุนพฤติกรรมที่ดี และสร้างความรับผิดชอบตามหลักผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย ซึ่งผู้ประกอบการที่มีการพัฒนาเพื่อรับผิดชอบต่อปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างยั่งยืนจะได้รับประโยชน์เต็มที่ และฝ่ายบริหารเป็นผู้กำหนดรายละเอียดการบังคับใช้

4.การจัดตั้งกองทุนอากาศสะอาด การกำหนดรายละเอียดในทางปฏิบัติ เช่น สัดส่วนการจัดสรรเงินหรือลำดับความสำคัญของการใช้เงินเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่ดำเนินการผ่านคณะกรรมการที่ทำหน้าที่บริหารกองทุน ร่างกฎหมายมีหน้าที่วางกรอบหลักการ วัตถุประสงค์และกรอบการใช้จ่ายเงินเท่านั้นเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น

5.อัตราโทษและบทกำหนดโทษ  ร่างกฎหมายมีทั้งมาตรการจูงใจและบทลงโทษ ผู้ประกอบการที่ให้ความร่วมมือจะได้ประโยชน์จากมาตรการจูงใจ ส่วนอัตราโทษที่สูงนั้นมุ่งเป้าไปยังผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและยังคงสร้างผลกระทบต่อส่วนรวมเท่านั้น โดยการกำหนดบทลงโทษคำนึงถึงหลักความได้สัดส่วนเปรียบเทียบกับความร้ายแรงของผลกระทบทางเศรษฐศาสตร์และสังคมที่เกิดจาก PM 2.5 ที่ผู้ประกอบการรายนั้นๆ ได้สร้างขึ้น

รศ.ดร.คนึงนืจ ศรีบัวเอี่ยม นายกสมาคมเครือข่ายอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพและกรรมาธิการสัดส่วนผู้เสนอกฎหมาย กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนภาคประชาชนที่เสนอร่างกฎหมายฉบับประชาชนเข้าชื่อได้มากถึง 20,000 กว่ารายชื่อและยืนยาวมาจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่ริเริ่มเสนอร่างกฎหมายแบบบูรณาการและถูกตอบโต้มาโดยตลอด แต่ยังคงยืนหยัดอยู่ในลู่วิ่งที่เป็นมาราธอน เรายืนยันกฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นภาระ หากมีคนบอกว่า เป็นภาระต้องถามกลับว่า เป็นภาระสำหรับใครและตอบได้ว่า ระหว่างภาระทำให้กำไรหดหายกับภาระที่ทำให้ประชาชนเจ็บป่วยและตายก่อนวัยอันควร ภาระไหนหนักกว่ากัน ต้องชั่งน้ำหนัก ซึ่งสอดรับกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งระบุว่าต้องสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงดูแลสังคมและสุขภาพประชาชน หากให้น้ำหนักต่อการพัฒนาเศรษฐกิจมากไป ไม่ใช่ทิศทางที่ถูกต้องและชอบด้วยกฎหมาย
นายกสมาคมฯ กล่าวว่า อากาศสะอาดเกี่ยวข้องกับมนุษย์ที่ต้องหายใจและอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เราพูดถึงสิทธิมนุษยชนด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งนานาอารยะประเทศรับรองและนำไปปฏิบัติ สิทธิในอากาศสะอาดถือเป็นสิทธิมนุษยชนประเภทหนึ่ง เพียงแต่ไม่มีการเขียนกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง สิทธิในสุขภาพ สิทธิที่จะมีชีวิตที่ดีไม่ตายก่อนวัยอันควร รวมถึงสิทธิที่ประชาชนจะรับรู้ข้อมูลภาครัฐและเอกชนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน รวมถึงสิทธิในการมีส่วนร่วมที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบระยะสั้น กลาง และยาว ที่ก่อให้เกิดมลพิษอากาศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตประชาชน

แนวทางแก้ปัญหาต้องไม่วนอยู่ในอ่าง แต่ต้องแก้เชิงระบบแก้ที่ต้นตอปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม วันนี้ประชาชนส่งเสียงเป็นเสียงเดียวกันเพื่อประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและผู้ประกอบการธุรกิจเอกชนหันมาทำความเข้าใจกฎหมายฉบับนี้อย่างถ่องแท้ดีกว่าต่อต้าน สิทธิประชาชนจากพ.ร.บ.อากาศสะอาด จะก่อให้เกิดสิทธิหน้าที่ของรัฐตามมาในการปกป้องคุ้มครองเจ้าของสิทธิจากการละเมิดโดยผู้ประกอบการที่ไม่เคารพต่อกฎหมาย ไม่เคารพสิทธิ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการหากก่อมลพิษต้องรับผิดชอบไม่ใช่ลอยนวลเอาเปรียบสังคม
การแก้ปัญหามลพิษ PM  2.5 ไม่ใช่เพียงแค่แก้หน้าฉากระยะสั้น แต่เราพูดถึงการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนเชิงโครงสร้าง เพื่อสร้างหลักการที่ถูกต้องชอบธรรม เป็นหลักความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อมหรือความยุติธรรมในการได้มาซึ่งอากาศสะอาดอย่างเท่าเทียมของมนุษย์

รศ.ดร.คนึงนิจระบุด้วยว่า เป็นไปได้สูงมากว่ากฎหมายฉบับนี้จะไม่ทันยุบสภา เราคาดการณ์อะไรไม่ได้เลย อยากให้กฎหมายผ่านก่อนยุบสภา แต่ไม่ได้หมายความว่า ให้ลดทอนคุณภาพของเนื้อหาลง ปล่อยให้ผ่านๆ ไป แล้วไปแก้ทีหลัง ซึ่งเครือข่ายอากาศสะอาดไม่เห็นด้วย เพราะจะออกกฏหมายพิกลพิการออกมาเป็นพิษภัยแก่ประชาชน แต่หากกฎหมายไม่ผ่านจริงๆ จะมีความรับผิดชอบทางการเมืองและความรับผิดชอบทางกฎหมาย เราไม่กล่าวโทษคนทำกฎหมายล่ม แต่ชวนคิดข้ามช็อตหลังจากนั้น หากเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่ หากรัฐบาลหยิบมาพิจารณาตามกำหนดก็ย้อนไปจุดที่ค้างคาได้ แต่ถ้ารัฐบาลใหม่ไม่เล่นด้วย ก็นับหนึ่งใหม่ ภาคประชาชนคงจะเข้าชื่อเสนอกฎหมายอีกครั้งหนึ่ง เราเคยทำมาแล้วครั้งหนึ่งเราจะทำอีก ทำไมจะทำไม่ได้และถ้าทำในครั้งที่สองนี้ร่างพ.ร.บ.นี้จะทรงเครื่องมากกว่าฉบับแรก มองไม่เห็นว่าจะถ่วงเวลาเพื่ออะไร เพราะภาคประชาชนเข้มแข็ง กฎหมายฟื้นคืนชีพได้ทุกเมื่อ เราจุดไฟติดแล้ว ไม่สามารถดับไฟง่ายๆ ด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือเกมพิสดารต่างๆ สิ่งที่จะทำในอนาคตต้องร่วมคิดร่วมวางแผน ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้ว

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย(สสรท.) กล่าวว่า ทุกคนต้องการอากาศสะอาด ปัจจุบันอากาศที่เราหายใจเข้ามีฝุ่นพิษมากมายนั่นเป็นเจตนารมณ์ของภาคีเครือข่าย ให้หน่วยงานผลักดันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้เรื่องอากาศสะอาดแต่ไม่อาจเป็นจริงตามคาดหวัง นำมาสู่ความร่วมมือในการเข้าชื่อเสนอกฎหมายให้เกิดอากาศสะอาดขึ้น หลังเครือข่ายประชาชนนำเสนอร่างขึ้นไปทำให้พรรคการเมืองเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ประกบร่างของประชาชนรวมเจ็ดร่างด้วยกัน ท้ายสุด สภาผู้แทนราษฎรรับหลักการทั้งเจ็ดร่างนำเข้าสู่การพิจารณาใช้เวลาเกือบสองปีฝ่าปัญหาและอุปสรรคมากมาย ทั้งใน มีการขับเคลื่อนจัดกิจกรรมอย่างหลากหลายและหนักหน่วง ภาคประชาชนเฝ้าติดตาม

“ ขณะเดียวกันกฎหมายฉบับนี้ทำให้กลุ่มทุนทั้งหลายคิดว่า เป็นอุปสรรคต่อการทำกำไร นักธุรกิจเกิดความเคลื่อนไหวต่อต้านกฎหมายอากาศสะอาด ซึ่งภาคีเครือข่าย 60 องค์กรลงนามในแถลงการณ์ฉบับนี้แสดงเจตจำนงขับเคลื่อนกฎหมายสะอาดอากาศสะอาดต่อไปวันนี้แสดงจุดยืนภาคีเครือข่ายอากาศสะอาด หลังจากที่กกรอสามสถาบันสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคาร แถลงข่าวและให้ข้อมูลสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนให้แก่ประชาชน อาจ ทำให้ความแข็งแกร่งของกฎหมายฉบับนี้ลดทอนลงไป

ประธาน สสรพ. ย้ำการขับเคลื่อนกฎหมายฉบับนี้ในสภาและนอกสภาต้องขับเคลื่อนร่วมกันไป รวมถึงกลุ่มทุนจะไม่เห็นด้วยเพราะมีเรื่องกองทุน ซึ่งเป็นเครื่องมือเขี้ยวเล็บทางเศรษฐศาสตร์ที่สำคัญ การเก็บเงินเข้ากองทุนธุรกิจมองเป็นภาระและต้นทุนทางเศรษฐกิจ มันมีสิ่งบ่งชี้ว่าทำให้กฎหมายฉบับนี้เป็นไปอย่างที่ต้องการ และเมื่อมาถึงชั้นวุฒิสภาไม่เข้าใจความต้องการของประชาชนหากสร้างกระบวนการรับรู้คิดว่าน่าจะมีเสียงตอบรับที่ดีกว่านี้ หากคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนคำนึงถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจธุรกิจสีเขียวรวมถึงการประชุมโลกร้อนที่บราซิลเกี่ยวข้องกับอากาศสะอาดทั้งสิ้นยุโรปมีมาตรฐานที่เข้มข้นทำธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหากกลุ่มทุนมองพรบอากาศสะอาดเป็นภาระ ธุรกิจจะไปไม่ได้ส่งกระทบต่อภาคเศรษฐกิจไทยโดยรวม ขณะนี้มี 60 องค์กรเข้าร่วมเรียกร้องขับเคลื่อนทำให้กฎหมายฉบับนี้ออกมาให้ได้ เพื่อให้อากาศสูดดมสะอาดเพียงพออยู่ในสังคมอย่างมีความสุขและมีศักดิ์ศรีส่งต่อคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกหลานนายสราวุธ สราญวงศ์  กล่าวว่า อากาศอากาศสะอาดเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์มนุษยชาติ ที่ผ่านมากฎหมายสิ่งแวดล้อมมีปัญหาการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งร่างพรบอากาศสะอาดฉบับนี้ เป็นการบูรณาการ เพื่อดำเนินการส่งเสริมผู้ประกอบการจัดการธุรกิจของตนให้ปลดปล่อยมลพิษน้อยที่สุดรวมถึงกองทุน อากาศสะอาดซึ่งเป็นอีกหัวใจสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้  ขอยืนยันและส่งเสียงถึงวุฒิสภาที่ทำหน้าที่พิจารณากฎหมาย อากาศสะอาด ออกมาบังคับใช้ เพื่อคนไทยทุกคน อยากให้เล็งเห็นถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง


ขอบคุณภาพ : เครือข่ายอากาศสะอาดประเทศไทย

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.