สุพรรณบุรี ตาวัย76ยืนทอดไข่ไฟช๊อตไหม้บ้านวอด หวิดคลอกหลานสาวดับ
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 11 ม.ค.2568 พ.ต.ท.นิคม ขุนสะอาดศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ที่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ 6 บ้านบึงหมู่ใหม่ ตำบล้านโพธิ์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบพร้อมนายวิรัตน์ คำหอมกุล นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโพธิ์ รถดับเพลิงเทศบาลบ้านโพธิ์ เทศบาลโพธิ์พระยา อบต.ตลิ่งชัน อบต.ดอนกำยาน และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูง หลังใหญ่ พบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงทั่วทั้งหลังเจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมไม่ให้ลุกลามขยายวงไปยังพื้นที่ข้างเคียงให้เวลาประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ แต่บ้านถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง หลังจากเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบห้องนอน 2 ห้องถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีห้องครัว 1 ห้อง และห้องเก็บของรถจักรยานยนต์ 3 คันถูกไฟไหม้วอด
นายวิรัตน์ คำหอมกุล นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโพธิ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านจึงรีบสั่งการเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยเทศบาลและประสานท้องถิ่นใกล้เคียงนำรถดับเพลิงมาช่วยดับ ช่วงมาถึงไฟได้โหมแรงรถดับเพลิงพยายามเร่งช่วยดับเพลิงอย่างเต็มที่แต่ช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรงมากทำให้หลังคาบ้านถูกลมพัดหล่นลงมากับพื้นการทำงานลำบาก อยากฝากเตือนประชาชนว่าช่วงนี้เป็นช่วงหน้าแล้งอากาศแห้ง เวลาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆถ้าเราจะออกจากบ้านให้ดึงปลั๊กออกหรือปิดสวิสให้ดีและตรวจสอบระบบตัดไฟ ให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ปกติหากเกิดไฟช็อตจะได้ป้องกันได้ ส่วนความช่วยเหลือจะได้รายงานให้ทางจังหวัดทราบเพื่อเร่งให้การช่วยเหลือเรื่องงบประมาณค่าชดเชยอย่างเต็มที่ตามระเบียบไม่เกิน 50,000 บาทรวมทั้งการช่วยเหลือในเรื่องของใช้จำเป็นจะรีบดำเนินการทันที
สอบถามนายวิเชียร อายุ 76 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ที่บ้านอาศัยอยู่กันทั้งหมด 8 คนก่อนเกิดเหตุลูกๆได้พากันออกไปทำนา เหลือเพียงตนกับหลานสาวอยู่บ้าน ขณะเกิดเหตุตนกำลังยืนทอดไข่อยู่ในครัวนอกบ้านระหว่างนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังโป๊ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงหม้อแบตเตอรี่ที่จอดในโรงจอดรถข้างบ้านระเบิด จึงไม่ได้สนใจจากนั้นไม่นานก็มีเสียงระเบิดดังโป๊ะขึ้นอีก 1 ครั้งที่บนบ้านจึงหันไปดูก็เห็นไฟลุกไหม้สายไฟ 2 เส้นบนบ้านวิ่งเข้าหาคัตเอาท์ อย่างรวดเร็วก่อนจะลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ตนจึงตะโกนเรียกหลานสาวที่อยู่ในห้องนอนด้านล่าง ให้ออกมาช่วย พร้อมกับใช้หม้อตักน้ำไปดับแต่สามารถดับได้จึงให้หลานสาวไปตามเพื่อนบ้านและแจ้งรถดับมาช่วยดับ
ส่วนต้นเพลิงมาจากเสาบนบ้านต้นที่ 3 ซึ่งอยู่กลางบ้านเป็นที่ติดตั้งปลั๊กและสวิสเปิดไฟ 1 หลอดก่อนจะวิ่งมาหาเสาต้นริมแล้วย้อนกลับไปหาคัตเอาท์แล้วลามไปตามสายไฟรอบบ้านและลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนก็บอกไม่ถูก งงเหมือนกันว่าทำไมไฟถึงได้ไหม้เร็วขนาดนี้ บ้านหลังนี้อายุประมาณ 50 ปี
น.ส.กัลยาณี น้องมิ้ว อายุ 23 ปี หลานสาวเล่าว่า ขณะกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องนอนด้านล่างได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะคล้ายของหล่นแตก จึงไม่ได้ใส่ใจแต่ได้ยินเสียงตา ตะโกนเรียกบอกไฟไหม้จึงรีบวิ่งออกจากห้องนอนมาดูพบไฟไหม้ทั่วบ้านแล้วจึงวิ่งเข้าไปลากถังแก๊งในห้องครัวในบ้านออกมาด้านนอกเพราะกลัวถังแก๊สระเบิด ก่อนจะวิ่งไปตามชาวบ้านมาช่วยดับไฟและโทรแจ้งนายกเทศมนตรีบ้านโพธิ์ ให้นำรถดับเพลิงมาช่วยดับ
น้องมิ้ว เล่าต่ออีกว่า ถ้าไม่ตะโกนเรียกตนอาจถูกไฟคลอกเสียชีวิตและคงจะไม่ได้รับปริญญา เดือนหน้าที่จะถึงนี้แน่ และชุดครุยสำหรับรับปริญญาที่ตัดเตรียมไว้ก็ถูกไฟไหม้เสียหายคงต้องตัดใหม่