ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบน้าเขยข่มขืนหลานสาวอายุ 17 ปี นานกว่า 1 ปี
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.ท.อนุสรณ์ ทองไสย, พ.ต.ท.ศิลป์ชัย ถวัลย์ภิยโย, พ.ต.ท.กันตเมศฐ์ อัครโชควรานนท์, พ.ต.ท.วริศร มัจฉา รอง ผกก.6 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป., พ.ต.ต.มนตรี สงคง สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป., ร.ต.อ.วินัย ชูฟอง, ร.ต.ท.ธัญพิสิษฐ์ ศรีมาลานนท์ รอง สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ป พร้อมด้วยเจ้าพนักงานตำรวจ ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายถาวรฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 3/2568 ลงวันที่ 6 มกราคม 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย เพื่อการอนาจาร”สถานที่จับกุม หน้าบ้านบริเวณ ม.5 ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปี 2563 น.ส.เอ อายุ 17 ปี ได้ไปพักอาศัยอยู่กับน้าสาวเพื่อช่วยงานน้าสาวและดูแลยาย ในบ้านประกอบไปด้วย น้าสาว น้าเขย ลูกของน้า และยาย น.ส.เอ นอนบริเวณห้องโถงกับยาย นอนห่างกัน 4-5 เมตร ส่วนน้าสาวจะนอนกับน้าเขยและลูก ต่อมาประมาณเดือนธันวาคม 2566 เวลากลางคืน ขณะที่ น.ส.เอ นอนหลับอยู่บนที่นอน น้าเขยได้เข้ามาทำอนาจาร สัมผัสร่างกาย น.ส.เอ ซึ่ง น.ส.เอ ได้พยายามปัดป้อง ไม่ให้น้าเขยกระทำ จากนั้น น้าเขยได้มัดตัวและขึ้นคร่อม น.ส.เอ แต่ น.ส.เอ ได้ขัดขืน ทำให้น้าเขยหยุดกระทำ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้น้าเขยได้กระทำมาแล้วหลายครั้ง
ต่อมาประมาณเดือนมีนาคม 2567 เวลากลางคืน น้าเขยได้เข้ามาหา น.ส.เอ เเละขึ้นคร่อมบนร่างกายของ น.ส.เอ จากนั้นได้ข่มขืนกระทำชำเรา น.ส.เอ จนสำเร็จความใคร่ ซึ่ง น.ส.เอ ไม่กล้าส่งเสียงร้อง ขอความช่วยเหลือ เพราะกลัวว่าตนเองจะถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งน้าเขยกระทำแบบนี้มาเดือนละ 3-4 ครั้ง โดยเริ่มครั้งแรกเดือนมีนาคม 2567 จนกระทั่งเดือนสิงหาคม 2567 ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากน้าสาวไปเฝ้ายายที่เข้าโรงพยาบาล น้าเขยได้กระทำพฤติกรรมแบบเดิมจนเสร็จและบังคับไม่ให้ไปบอกเรื่องนี้กับใคร
เมื่อประมาณเดือนกันยายน 2567 น.ส.เอ ทนไม่ไหวจึงได้เปิดเผยความจริงกับมารดาของตัวเองว่า ตลอดระยะเวลาประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ตนเองได้ถูกน้าเขยข่มขืนกระทำชำเรา จำนวนหลายครั้ง มารดาจึงได้พา น.ส.เอ เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งสง ให้ดำเนินคดีกับน้าเขย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดทุ่งสง ออกหมายจับตัวผู้ก่อเหตุในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น, พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วย เพื่อการอนาจาร” เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กระทั่ง เจ้าพนักงานตำรวจ กก.6 บก.ป. สืบสวน จนทราบว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีข้างต้น ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่แห่งหนึ่ง ต.สุโสะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้เข้าติดตามจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา