นายกฯ ลั่นประชาชนต้องมีที่ดินทำกิน เร่งมอบสัญญาเช่าให้ชาวนครสวรรค์กว่า 1,000 ราย เป้าหมายลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิต
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 13 ม.ค.68 ณ อาคารอเนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการ บึงบอระเพ็ด อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รั ีทคซระจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง พร้อมด้วยผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีร่วมมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้ประชาชนจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกล่าวแสดงความยินดีกับประชาชนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุว่า ถือเป็นการเริ่มต้นและเป็นโอกาสที่ดีสำหรับประชาชนที่จะมีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและใช้ทำกิน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่แข็งแรงให้กับประชาชน ในการนำไปประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง รัฐบาลให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิต การเข้าถึงบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานของรัฐ และการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน ได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์นำที่ราชพัสดุซึ่งอยู่ในความครอบครองของส่วนราชการต่าง ๆ มาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่ดินและที่อยู่อาศัยด้วยการให้ประชาชนได้เช่าในอัตราผ่อนปรน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงที่ดินทำกินมากขึ้น ซึ่งต้องขอขอบคุณคณะทำงานที่ได้เร่งดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์ ถือเป็นความภาคภูมิใจของรัฐบาลที่ได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ นอกจากจะมีความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัยและมีที่ดินทำกินแล้ว ยังสร้างความสบายใจ เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการไล่ออกจากที่ดิน ทำให้มีความเข้มแข็งทางด้านจิตใจมากยิ่งขึ้น มีกำลังใจในการประกอบอาชีพ สามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งให้คนไทย “มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี” ซึ่งวันนี้มีประชาชน จำนวน 1,081 คน ได้รับมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ทั้งในอำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอชุมแสง และอำเภอท่าตะโก โดยรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายของการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไว้อย่างน้อย 5,055 สัญญา ทั้งนี้ คณะทำงานจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งมอบสิทธิให้กับประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
"นอกจากปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินแล้ว ยังมีปัญหาสังคมด้านอื่น ๆ เช่น ปัญหายาเสพติด รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อนำผู้หลงผิดติดยาเสพติดกลับคืนสู่สังคม อย่างที่ตนเองได้เน้นย้ำตลอดว่า ผู้ติดยาเสพติดไม่ใช่คนไม่ดี แต่เป็นคนที่หลงผิด ซึ่งการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่พี่น้องประชาชนทุกคนในวันนี้ จะช่วยสร้างโอกาสและยกระดับคุณภาพชีวิตของทุก ๆ คนให้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือช่วยสร้างความเจริญเติบโตให้แก่เศรษฐกิจในท้องถิ่น และเป็นการส่งต่อโอกาสและความมั่นคง ไปสู่ลูกหลานของจะทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสที่ใฝ่ฝัน และสามารถทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง ที่ดินดังกล่าวจะสืบทอดต่อไปยังลูกหลานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขอให้ประชาชนร่วมมือกับรัฐบาลช่วยกันสร้าง ช่วยกันทำให้เต็มที่ เพื่ออนาคตที่ดีของประเทศไทย"นายกรัฐมนตรี ย้ำ
สำหรับการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ สัญญาเช่าที่ดิน พลิกชีวิตประชาชน ในครั้งนี้ รัฐบาลโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียน นว.339 (บึงบอระเพ็ด) อ.เมืองนครสวรรค์ อ.อชุมแสง และ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จำนวน 1,081 ราย ประกอบด้วย เพื่ออยู่อาศัย จำนวน 220 ราย และเพื่อประกอบการเกษตร จำนวน 861 ราย คิดเป็นจำนวน 1,575 สัญญา เนื้อที่ประมาณ 19,466 - 0 - 67 ไร่ ให้กับประชาชนชาวนครสวรรค์ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินให้แก่ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เพิ่มคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนโดยรวม และในปี พ.ศ. 2568 รัฐบาลมีนโยบายดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน ภายใต้โครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์” อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายการมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้แก่ประชาชนไม่น้อยกว่า 5,055 สัญญา ซึ่งคาดว่าจะสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจให้ท้องถิ่นได้มากขึ้น และเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรให้มีความยั่งยืนต่อไป