เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ.รรท.ผบก.ปอศ.พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สุทธเสนา สว.กก.2 บก.ปอศ.นำกำลังร่วมกันจับกุม นายจักรี(สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาความผิดฐาน “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร ได้ที่หน้าห้องพัก อาคารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากกรมสรรพากรตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการขายรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์หรู มีนายจักรี เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจ มีพฤติกรรมในการเลี่ยงภาษี โดยการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จากการตรวจสอบประวัติการยื่นภาษีของบริษัทฯ ดังกล่าวย้อนหลัง
ช่วงระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ.2554 – พ.ศ.2558) พบว่ามีการยื่นรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เมื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ดังกล่าวพบว่ามีเงินฝากเข้าบัญชี บริษัทฯ กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนสูงกว่ายอดรายได้ที่ยื่น ภ.ง.ด.50 ต่อกรมสรรพากร และบริษัทฯ ไม่สามารถนำส่งเอกสารและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการหรือที่มาของเงินได้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำโดยการแจ้งความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 160 ล้านบาท
ต่อมากรมสรรพากร จึงนำพยานหลักฐานมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทฯ ดังกล่าว ก่อนจับกุม พ.ต.ท.พีระพัฒน์ สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ห้องพักดังกล่าว จึงจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. ดำเนินคดี
เบื้องต้น สอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และอ้างว่ามาสมัครงานเป็นพนักงานขับรถยนต์และพนักงานขายที่บริษัทฯ ดังกล่าว โดยมีพนักงานฝ่ายบุคคล ให้มอบเอกสารส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการสมัครงานให้ โดยไม่ทราบว่ามีการนำเอกสารของตนไปเปิดและจดทะเบียนบริษัทฯ มาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวและได้แจ้งให้ตนทราบเท่านั้น