มาเลเซีย ไฟเขียวเปิดตลาดเนื้อโคไทย ‘นฤมล’ เร่งเจรจารุกตลาดจีน ส่งออกโคมีชีวิต
GH News February 06, 2025 08:43 PM

นฤมล เร่งเจรจาเปิดตลาดจีน ดันสินค้าปศุสัตว์ หลังไทยเปิดตลาดส่งออกเนื้อโคไปมาเลเซียสำเร็จ

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 123 นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาโคเนื้อ-กระบือ และผลิตภัณฑ์แห่งชาติ (Beef Board) ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายอิทธิ ศริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นางนฤมลเปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯได้เดินหน้านโยบายขับเคลื่อนการส่งออกโคเนื้อ กระบือไปต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการค้าขายสินค้าปศุสัตว์ของประเทศ และทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น มีอาชีพที่มั่นคง โดยได้ผลักดันการส่งออกโคมีชีวิตและผลิตภัณฑ์จากไทยไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้มีการเดินหน้าเจรจายกระดับเปิดตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (GACC)

ขณะเดียวกันกรมปศุสัตว์ได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.68 กรมสัตวแพทย์บริการแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย (DVS) ได้มีหนังสือแจ้งผลการเจรจาเปิดตลาดส่งออกเนื้อโคไปยังประเทศมาเลเซียว่า อนุญาตให้ส่งออกเนื้อโคจากไทยไปมาเลเซียได้แล้วตามข้อกำหนดที่ตกลง และขอให้สถานประกอบการนำส่งคำขอขึ้นทะเบียนไปยัง DVS เพื่อรอรับการตรวจรับรองต่อไป

“กระทรวงเกษตรฯมีสินค้าเกษตรส่งออกที่สำคัญ โดยเฉพาะยางพาราที่ไทยส่งออกเป็นอันดับหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม โคเนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งความคาดหวังที่กระทรวงเกษตรฯจะผลักดันให้เป็นสินค้าส่งออกอันดับต้นๆ เพื่อเป้าหมายประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกโคเนื้อรายใหญ่ของโลก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมระดับพรีเมียม จึงควรส่งเสริมการเลี้ยงโคให้กับเกษตรกร และสนับสนุนการแปรรูปพัฒนาคุณภาพ มาตรฐาน และรูปแบบ ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อของไทย” นางนฤมลกล่าว

นางนฤมลกล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาโคเนื้อตกต่ำ ทางกระทรวงเกษตรฯได้ผลักดันแนวทางการกำหนดราคาโคเนื้อให้มีเสถียรภาพ เริ่มจากการประกาศราคาแนะนำโคเนื้อมีชีวิตรายภาค โดยสมาคมโคเนื้อแห่งประเทศไทย การจัดทำโครงสร้างราคา การรณรงค์การบริโภคเนื้อโค พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า เข้มงวดการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าเนื้อโคผิดกฎหมาย โดยชุดเฉพาะกิจพญานาคราช รวมถึงเข้มงวดป้องกันการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง และเดินหน้าเจรจาเปิดตลาดโคเนื้อมีชีวิตเพ่อขยายตลาดส่งออกให้มากขึ้น

นางนฤมลเผยว่า ในที่ประชุมยังได้ร่วมกันพิจารณาในประเด็นที่สำคัญ โดยได้เห็นชอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ (งบกลาง) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 สำหรับการจัดซื้อวัคซีนสำหรับโรคปากและเท้าเปื่อยเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรคให้ครอบคลุมประชากรโคเนื้อ กระบือ แพะและแกะ ควบคุมป้องกันโรคให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดความเสียหายของเกษตรกรจากโรคดังกล่าว ตลอดจนเพื่อให้อุบัติการณ์ของโรคลดลง จนไม่พบการระบาดและไม่พบสัตว์ป่วยตายภายในประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้า เพิ่มศักยภาพการส่งออกไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การผลิตโคเนื้อปี 2567 มีโคเนื้อทั้งสิ้น 9.904 ล้านตัว เพิ่มขึ้นจาก 9.655 ล้านตัว ของปี 2566 หรือคิดเป็นร้อยละ 2.58

อย่างไรก็ตาม ในปี 2567 ไม่มีการนำเข้าโคเนื้อมีชีวิต แต่มีการนำเข้าเนื้อโคและผลิตภัณฑ์ จำนวน 35 พันตัน เพิ่มขึ้นจาก 25.30 พันตัน ของปี 2566 ร้อยละ 38.34 ประเทศคู่ค้าที่สำคัญสำหรับเนื้อโคสดแช่เย็นแช่แข็ง ได้แก่ ออสเตรเลีย (60%) อาร์เจนตินา (14%) นิวซีแลนด์ (10%) บราซิล (10%) อื่นๆ (6%) ส่วนเนื้อโคแปรรูปนำเข้าจากออสเตรเลียทั้งหมด

ในส่วนของสถานการณ์การผลิตกระบือ ปี 2567 มีกระบือทั้งสิ้น 1,815,901 ตัว ปริมาณการผลิตกระบือเนื้อ 374,195 ตัว คิดเป็นเนื้อกระบือ 80,826 ตัน ปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 2.09 มีมูลค่านำเข้ากระบือรวมทั้งสิ้น 100.37 ล้านบาท โดยเป็นหนังกระบือฟอก หนังกระบือดิบ และเขากระบือ

สำหรับมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 1,265.02 ล้านบาท ประเทศคู่ค้าส่งออกกระบือมีชีวิต ได้แก่ สปป.ลาว เวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ เศษหนังโค-กระบือตากแห้ง หนังกระบือดิบ เขากระบือ และกระบือมีชีวิต

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.