บิว-วีซ่า เผยจุดเริ่มต้นรักร่วมค่าย ได้เจอครอบครัวกันแล้ว แฮปปี้!เป็นรักพลังบวก ยังไม่คิดเรื่องแต่ง ขอมุ่งทำงานก่อน

รักร่วมค่ายเกิดอีกคู่ สำหรับคู่พระเอกหนุ่ม “บิว ณัฐพล ไรยวงค์” ที่ตั้งแต่เปิดตัวคบหาดูใจกับนักแสดงสาวคนสวยช่องเดียวกัน อย่าง “วีซ่า สิมิลัน เตมีวณิชย์” ก็เดินหน้าสาดความหวานแบบไม่มียั้งเลยทีเดียว โดยความรักของทั้งคู่เริ่มต้นจากได้ร่วมงานกันครั้งแรกในละครเรื่อง “โอม! พระยาไฟ” จากนั้นได้เริ่มสานความสัมพันธ์มาเรื่อยๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดตัวคบกัน

ล่าสุดได้เจอทั้งคู่ที่ช่อง 7 จึงไม่พลาดอัพเดตความรัก และถามถึงจุดเริ่มต้นของความรักว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร

จุดเริ่มต้นของความรักของเราสองคน?
บิว : วันนั้นเราไปถ่ายทำละครเรื่อง โอม!พระยาไฟ เรามีซีนถ่ายตอนเช้า เบรกยาวเลยแล้วมาถ่ายตอนกลางคืน ก่อนหน้านี้แทบจะไม่ได้คุยกันเลย คุยกันตอนเข้าฉากอย่างเดียว แต่วันนั้นอากาศร้อนมากเลย บิวได้ยินน้องวีซ่าคุยกับน้องๆฝึกงานว่าจะไปไหว้พระ มีใครจะเอาอะไรเซเว่นไหม บิวเลยบอกงั้นพี่ขอติดรถไปได้ไหม ไปส่งพี่อเมซอนก็ได้ พี่อยากหาที่เย็นๆอยู่ น้องจะไปทำไรเรื่องของน้อง เดี๋ยวพี่กลับเอง เขาจะไปวัดใช่ไหม แต่ระหว่างทางไม่เจออเมซอนเลย ก็เลยไปทำบุญด้วยกันเลย ตอนแรกบิวบอกไม่ลงนะ เพราะหนีร้อนมา น้องบอกลงเถอะๆ ก็ปล่อยให้เขาทำบุญของเขาไป เรายืนไหว้ข้างนอก ระหว่างขับรถเราได้พูดคุยกัน รู้สึกว่าน้องน่ารักดี เราเล่นมุขอะไรไปก็ตบมุขให้เรา หลังจากนั้นพอไปถ่ายละครแยกย้ายกลับบ้าน ก็แซวน้องในไอจี ทักไปแซวว่าดึกแล้วนะ ไม่นอนสักที เห็นเขาลงสตอรี่ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่เราคุยกันแบบจริงจัง หลังจากนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆ

เราทำลายกำแพงของกันและกัน?
บิว : มันเหมือนตอนว่าเราทำงาน เราก็ทำงานจริงๆ ไม่ได้สนใจ แต่พอได้พูดคุยกันจริงๆ นอกจากทำงาน รู้สึกว่าน้องน่ารักดี เลยจีบเขาเลย

พี่เขาบอกว่าจะจีบนะ หรือใช้วิธีคุยกับเราไปเรื่อยๆ?
วีซ่า : พี่บิวเป็นคนสนุกเป็นคนขี้เล่น แล้วซ่าก็เป็นคนขี้เล่นเหมือนกัน มันไม่ได้มีจุดที่จีบนะ เราค่อยๆเรียนรู้กันมากกว่า

จุดไหนที่ทำให้ตัดสินใจคบกันเป็นแฟน?
บิว : ไม่ได้คิดอะไรเลย เพราะเราก็โสดด้วยตอนนั้น น้องก็โสด รู้สึกว่าคุยกันไปก็สนุก เลยคุยกันไปเรื่อยๆ ก็เลยคบกันแค่นั้น ไม่ได้มีจุดตัดสินใจหรอก แค่ใช้ความรู้สึก ไม่ได้คบกันนะเลย

เวลาวันครบรอบนับยังไง?
บิว : เรื่องนี้กำลังมีประเด็น ล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว นั่งๆอยู่วีซ่าถามเรามีวันครบรอบไหม แต่เขามีหลักฐานเวลาถ่ายรูปก็ย้อนดู
วีซ่า : จริงๆ คือวันที่ 11 มิถุนายน แต่เขาบอกเป็นวันเกิดพี่ได้ไหมคือ 12 เดือนเดียวกับเดือนเกิดเขา จะได้ของขวัญทีเดียว

ก่อนจะครบรอบต้องวาเลนไทน์ก่อน จะหวานไหม?
บิว : ผมว่าจะซื้อบ้านซื้อรถให้เขา เป็นโมเดลโชว์ก่อนว่าเราจะมีแบบนี้นะ(หัวเราะ) ผมว่าก็แค่พาไปกินข้าว น้องก็โอเคแล้วแหละ

วีซ่าคาดหวังไหม?
วีซ่า : ไม่คาดหวังค่ะ อันนี้พูดแบบตรงๆ หนูรู้สึกว่าทุกวันการมีเขาอยู่ก็พิเศษแล้ว มันไม่จำเป็นต้องเป็นเทศกาล
บิว : เมื่อวันสองวันก่อน เขาเพิ่งซื้อของเซอร์ไพรส์ เป็นโปสเตอร์แคนวาสเรื่อง โอม!พระยาไฟ โอมเคยพูดกับเขาว่าน่ามีโปสเตอร์มาติดผนังเนอะ เขาเลยซื้อมาให้ มาเซอร์ไพรส์เรา เขาบอกมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกัน ก็เลยเลือกรูปนี้

น้องเล่นใหญ่แล้ว บิวอย่าแพ้นะ?
บิว : มี เซอร์ไพรส์ไปแล้ว น่ารักด้วย รอดูรูปเลย

ถามวีซ่าก่อนเขามาจีบ เรามองเขาเป็นผู้ชายแบบไหน?
วีซ่า : ขี้แอ๊ก ความรู้สึกแรกเลย ตอนที่เจอครั้งแรกแอคทำไม หนูยังไม่เคยเจอเขา แล้วหนูก็เป็นคนเข้าหาคนอื่นไม่เก่ง ถ้าไม่ได้สนิทก็จะไม่ค่อยพูด หนูชวนเขาคุย ตอนนั้นนั่งแต่งหน้าหันหลังชนกัน ถามเขาพี่บิวคะๆเคยถ่ายหนังใช่ไหมคะ เขาตอบครับ เรื่องนี้ใช่ไหม บิวตอบ ใช่ เขาถามกลับว่าเคยดูเหรอ หนูตอบว่า ไม่เคยดูค่ะ ไปเสิร์จดูเฉยๆ แล้วก็จบเลย ไม่รู้จะคุยอะไรกับเขาดี ตอนไปกองหนูก็อยู่ในมุมของหนู เขาก็อยู่ในมุมของเขา คุยมากสุด พี่บิวสวัสดีค่ะ กินข้าวหรือยังคะ กลับแล้วนะคะ แค่นี้เลย
บิว : เวลาไปออกกองบิวชอบไปนั่งอยู่คนเดียว นั่งพัก อ่านบทคนเดียว แต่ลุกไปถ่ายทำหน้าเซ็ต ก็จะสนุกสนาน แต่ถ้าได้นั่งพักจะอยู่ยาวเลย

น้องเลยไม่กล้าเข้าหา?
วีซ่า : ใช่ค่ะ คุยกันจริงๆคือใกล้ปิดกอง เขาชอบหยอด ตอนมากองแต่งหน้าอยู่ เขาบอกคิดถึงพี่ไหม ตอนแรกก็งง เขาจะมีความพี่ชายที่แสนดี มีความหวังดี บางทีเราถ่ายละครอยู่ เขาก็จะซ่าพี่ว่าซีนนี้ดีนะ แต่ต้องเพิ่มอันนี้นิดนึงนะ เพราะบางทีไม่ได้มีใครที่มาสอนเราแบบนี้ หนูก็ฟัง ทำให้ค่อยๆ ได้คุยกัน อย่างบางทีช่องจะมาสัมภาษณ์หนูก็จะบอก ไม่เอา เป็นคนไม่ค่อยพูด เขาก็จะบอกไม่ได้นะ ต้องลองทำ มันเลยมีเรื่องให้คุยกันเยอะขึ้น

ตอนหลังๆเขาเริ่มมาหยอดแอบคิดไหม?
วีซ่า : ไม่คิดเลยค่ะ เพราะเขาน่ารักกับทุกคน เขาเป็นคนสนุก เลยไม่ได้รู้สึกว่าเขามาจีบหรือเปล่า ไม่ได้คิดเลย

ตอนเขาทักมาคิดไหมว่าเขาก็อาจทักแบบนี้กับคนอื่นเหมือนกัน?
วีซ่า : ตอนนั้นก็คิดค่ะ เพราะว่าเอาจริงๆมันก็หลังจากเราได้ไปใช้เวลาเริ่มรู้จักกันมากขึ้น หนูก็เริ่มชอบ ทำไมใจเต้น เขาทักมาทำไมอ่ะ ตั้งนานไม่ทัก แต่ก็ไม่ได้เข้าข้างตัวเองขนาดนั้น ก็คุยปกติ ตอนอยู่กองไม่มีเวลามากุ๊กกิ๊กกันด้วยซ้ำ ถ่ายวันนึงก็ 30 กว่าซีน พอมีเวลาว่างก็นั่งพัก

จากวันแรกบอกว่าเขาดูแอค พอรู้จักจริงๆเขาเปลี่ยนไปไหม?
วีซ่า : เปลี่ยนค่ะ พอคุยมากขึ้น เขาเป็นคนเฟลนด์ลี่ ใจดี น่ารัก

สเปกไหม?
วีซ่า : ถ้าภายนอกคือใช่เลย หนูชอบคมเข้ม ผิวแทน ยิ้มสวย หนูจะไม่ค่อยสายตี๋ ยิ่งแทนๆยิ่งชอบ
บิว : แสดงว่านิสัยไม่ชอบ

บิวล่ะวีซ่าใช่สเปกไหม?
บิว : ไม่มีสเปก คุยกันรู้เรื่องก็โอเค เข้าใจเราก็พอแล้ว

ตอนนี้ยังมีอะไรต้องปรับจูนกันอีกไหม?
บิว : มีครับ ช่วงนี้เราไม่ได้ถ่ายละคร เราก็มาไลฟ์ขายเสื้อ แต่บิวติดถ้าทำงาน ก็จะเป็นพาร์ตทำงาน แต่เข้าใจแฟนเรา เราขายของด้วยกัน แต่จริงจังเกินไป มันทำให้เสียบรรยากาศ พี่รู้ตัวนะกำลังปรับเหมือนกัน (หันไปบอกวีซ่า) แล้วก็น้องชอบไปไหนให้พิมพ์บอก แต่เราไปถึงเราวางโทรศัพท์ ส่วนมากเน้นโทรมากกว่า แต่วีซ่าเน้นพิมพ์ อันนี้คือปัญหาของเราสองคน
วีซ่า : มันนอยด์ บางทีหนูไม่ได้ว่างรับโทรศัพท์ตลอด พิมพ์ไว้ก็ได้เดี๋ยวหนูมาดู แต่เขาจะแค่โทรบอกก็จบ แต่ถ้าหนูไม่ได้รับตอนนั้น หนูก็ไม่รู้ หลังๆก็ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจ เอาที่สะดวก

ตอนนี้รู้จักนิสัยกันมากน้อยแค่ไหน?
วีซ่า : ถ้าเต็ม 100% หนูให้ 80%
บิว : เช่นกัน

เวลาไปกินข้าวด้วยกัน สั่งแทนกันได้ไหม?
บิว-วีซ่า : ได้
บิว : ก่อนคบกันสังเกตพฤติกรรมว่าเขากินง่ายไหม เขากินง่ายมาก ข้าวแกง จบ แล้วก็ทำกับข้าวกินที่บ้าน

มีโอกาสไปเจอครอบครัวไหม?
บิว : น้องเคยเจอคุณแม่อยู่ครับ วันเกิดที่จัดมีตติ้ง ส่วนบิวก็เคยเจอแม่น้องซ่า

บวชแล้วนะ จะเบียดยัง?
บิว : ไม่ๆ ยังไม่รีบ เราไม่ได้โฟกัสการแต่งงานขนาดนั้น อีกอย่างการแต่งงานต้องมีค่าใช้จ่ายด้วย
วีซ่า : คือหนูกับพี่บิวคิดเหมือนกันว่าเรื่องแต่งงานไม่ได้สำคัญ ยุคสมัยมันไปไกลแล้ว แต่หนูเข้าใจประเพณีว่าควรจะมี แต่ถามว่ารีบร้อนไหม ยัง ทำงานก่อน

ตั้งแต่มีกันและกันเข้ามาในชีวิตมันเปลี่ยนไปไหม?
บิว : เปลี่ยนสิครับ เขาเข้ามาเติมเต็มในสิ่งที่เราไม่ชอบ อย่างคอนเทนต์เต้น เขาชอบถ่ายคอนเทนต์ ชอบเต้น บิวชอบทำกิจกรรมนะ แต่ไม่ชอบถ่าย ก็ได้เขามาคอยถ่าย เราเลยมีลงโซเชียลมากขึ้น
วีซ่า : เก็บมุมที่คนอื่นไม่ได้เห็นเขา หน้าสื่อใครก็เห็นได้ แต่อยากให้เห็นเขามุมอื่น อย่างเช่นไปจับปลา เขาจับตั้งแต่เด็ก หนูรู้ แต่หนูก็อยากให้คนอื่นเห็นว่าเขากินง่าย อยู่ง่าย แล้วชีวิตคนเราก็มีแค่นี้

ชีวิตวีซ่าล่ะ เปลี่ยนไปไหม?
วีซ่า : หนูรู้สึกว่าเขาสอนอะไรหนูมากขึ้น อย่างเวลาหนูมีเรื่องเครียด หนูจะชอบเก็บไว้ เขาก็จะดูออก เขาก็จะสอนวีซ่าลองเปลี่ยนวิธีคิดไหม หนูก็สบายใจ เขาเข้ามาพากันหาเงิน พากันทำสิ่งดีๆหนูก็ชอบ
บิว : ก็อยากให้ปล่อยวาง เขาอยู่กับเราถ้าเขาเครียด เราก็เครียดด้วย ถ้าเขาอารมณ์ดี เราก็สดใสด้วย เลยอยากให้อะไรที่ทิ้งได้ ก็ทิ้งไป อย่างช่วงนี้ไม่มีละคร แต่บิวก็มีงานเตะฟุตบอล ไปหลายจังหวัด น้องก็ได้ไปด้วย เราก็ได้ไปเที่ยวด้วย
วีซ่า : หนูขอชมเขาอย่างนึง ตั้งแต่รู้จักเขามา หนุรู้สึกว่าเขาเป็นคนขยัน เขาชอบเล่าชีวิตให้หนูฟัง ตอนเด็กๆ กว่าเขาจะมาจุดนี้ เขาผ่านอะไรมาบ้าง หนูรู้สึกว่าแค่ตัวเราก็ผ่านมาเยอะแล้ว แต่พอได้ฟังมุมชีวิตคนอื่นบ้าง อ๋อ มันมีอะไรมากกว่านี้ เขาสามารถจับต้องเงินที่อยู่ในอากาศได้ เขาไม่จำเป็นต้องรอโอกาสเข้ามา แต่เขาเป็นโอกาสให้ตัวเอง อันนี้คือข้อดี อยู่กับเขาเราได้รับสิ่งดีๆไปด้วย พอมีเขาเข้ามาในชีวิตแล้วมันดี