‘นายกฯ‘ เผยวงดินเนอร์พรรคร่วม คุยเตรียมพร้อมศึกอภิปราย กำชับแชร์ข้อมูลกัน มั่นใจไม่มีหักหลังตอนโหวต ขออย่าทำการเมืองเป็นอาญาปมสอบ สว. ’อนุทิน’ ชม อิ๊งค์ ภาวะผู้นำชัด รบ.อยู่กันนานที่สุด ขออย่าเอาเรื่องส่วนตัวทำให้ภาพรวมเสีย
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ว่า วันนี้มีการพูดคุยกันเตรียมตัวถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรัฐสภา ถึงหัวข้อและเรื่องที่อยากจะเล่า อยากลงรายละเอียด ทำให้เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้มีเอกภาพและมีศักยภาพอย่างมั่นคง มีอะไรก็ช่วยเหลือกัน ถามข้อมูลและคุยกันระหว่างกระทรวง
ส่วนการสนับสนุนรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น เราทราบกันอยู่แล้วว่าแต่ละกระทรวงทำอะไรบ้าง แค่คุยกันให้ชัดเจน พร้อมยืนยันว่าไม่มีการหักหลังกันในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วาง และไม่มีการคิดถึงบทลงโทษ และไม่จำเป็นหากมีการแตกแถว
พร้อมย้ำว่า เรามีความเห็นตรงกันในทุกๆหัวข้อ ซึ่งแต่ละพรรคก็จะต้องไปพูดคุยในพรรคของตัวเอง ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในฐานะหัวหน้ารัฐบาลไม่มีความกังวล และพร้อมชี้แจง ในการอภิปรายที่จะมาถึงนี้
นายกฯ กล่าวอีกว่า การดินเนอร์วันนี้กำหนดไว้แค่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เราต้องการให้ทุกคนสื่อสารถึงคนในพรรคของตัวเองให้ชัดเจน จึงเชิญมาในวงที่เล็กกว่าปกติ พร้อมย้ำว่าไม่มีการคับอกคับใจในเรื่องใด
นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้รับข้อมูลจากหลายๆท่านซึ่งเป็นรัฐมนตรีในหลายๆรัฐบาล ซึ่งจะนำไปปรับปรุงในคณะรัฐมนตรี รวมถึงเรื่องต่างๆให้ดีขึ้น ซึ่งการไปคุยนั้นต้องทำให้ทุกคนผ่อนคลายและเป็นตัวของตัวเอง ไม่ได้ออกสื่อ
ส่วนที่มีรายชื่อออกมาว่ามีใครที่โดนอภิปรายบ้าง ก็มีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ตอบไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าต้องตอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามทราบผลงานของทุกพรรคใน ครม.อยู่แล้ว เนื่องจากมีการประชุมทุกสัปดาห์ และมีการคุยนอกรอบ จึงไม่จำเป็นต้องส่งการบ้าน แต่ให้ทุกคนเตรียมตอบคำถามของกระทรวงตัวเอง และแชร์ข้อมูลกัน
ส่วนสถานการณ์วันนี้ที่ กรมสอบสวนพิเศษ เลื่อนการพิจารณาเรื่อง สว. ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ อย่าทำให้อาญาเป็นการเมืองหรือการเมืองเป็นอาญา หรือทุกอย่างเป็นการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่นั้นจะทำงานยาก พร้อมย้ำว่ามั่นใจในตัวรัฐมนตรีทุกๆคน ไม่มีส่วนไหนที่ต้องตบให้เข้าที่เข้าทาง พร้อมย้ำว่าด้วยว่าดื้อทุกคนรวมถึงตัวนายกรัฐมนตรีด้วย
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าวันนี้นายกรัฐมนตรี ได้แสดงภาวะผู้นำอย่างชัดเจนให้พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้เห็น และเราทุกคนก็มีความมั่นใจในความเป็นผู้นำของนายกรัฐมนตรีที่กำหนดแนวทางอย่างชัดเจน ว่าเป็นรัฐบาลด้วยกันก็ต้องอยู่ด้วยกันให้ยาวนานที่สุด และสนับสนุนกันและกัน ซึ่งในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจหากมีการออกนอกแต่ละพรรคช่วยกันปกป้อง ไม่ใช่ปกป้องแค่รัฐมนตรีของพรรคตัวเอง
ทั้งนี้ หากใครมีเหตุมีผลในการแก้ต่าง ก็ขอให้ช่วยกันสามารถร่วมมือกันได้ ซึ่งในการอภิปรายครั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดแนวทางของตัวเองว่าเป็น ‘ผู้รักษากฎ’ จะอ้างว่าได้มากี่เสียงไม่ได้ เพราะเป็นเอกสิทธิของสส. แต่หัวหน้าพรรคทุกพรรคและเลขาธิการพรรคร่วมทุกพรรค จะต้องไปกำกับดูแลสมาชิก อย่าให้มีการแหกคอก และทำให้เกิดความไม่เข้าใจในรัฐบาล
นายอนุทิน ยืนยันว่า รัฐมนตรีทุกคนจะต้องไปนำเสนอนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางการชี้แจงข้อกล่าวหาอยู่แล้ว ทั้งนี้พรรคภูมิใจไทยถือเป็นพรรคแรกที่ยืนยันสปิริตของการร่วมรัฐบาลว่า รัฐมนตรีทุกคนจะได้รับการสนับสนุนจากพรรคภูมิใจไทย ขออย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้ภาพรวมเสีย
ส่วนการรับประทานอาหารวันนี้ แม้ตนจะเป็นเจ้าภาพแต่วันนี้ก็มีการแชร์กันจ่าย ซึ่งตนมาดูความเรียบร้อยตั้งแต่ 17.00 น. พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการแสดงสัญลักษณ์แต่อย่างใด เป็นเพียงหัวหน้ารัฐบาล นัดหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคเพื่อหารือและกำหนดแนวทาง บอกเจตจำนง ความตั้งใจและภาพที่นายกรัฐมนตรี อยากเห็น ซึ่งได้รับความเห็นชอบแล้วเห็นด้วยจากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค เหมือนมีฉันทามติว่าเราจะทำงานด้วยกัน ซึ่งตั้งแต่ร่วมทำงานวันนี้มีความชัดเจนมากที่สุด
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ครั้งหน้า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมไทยสร้างชาติ จะเป็นเจ้าภาพในการจัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลครั้งต่อไป ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีการนัดพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อหารืออีกครั้ง เรื่องเจตนารมณ์ของพรรคร่วมรัฐบาล
ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้มีหัวหน้าพรรคคนใดระบายความคับข้องใจหรือไม่ จังหวะนี้ นางนฤมล ได้หันไปชี้ที่นายอนุทิน พร้อมระบุว่า ”คนนี้” ซึ่ง นายอนุทิน กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉย ทำให้ นายกฯ กล่าวตัดบทพร้อมหัวเราะว่า “ไม่มีค่ะ อันนี้ล้อเล่น เมื่อกี้ได้คุยกันก็ได้ข้อมูล ได้ความรู้ จากทุกท่าน เพราะหลายท่านเป็นรัฐมนตรีจากหลายรัฐบาล ซึ่งตนเองเป็นนายกฯ ก็จะนำข้อมูลต่างๆ มาปรับปรุงใข้กับ ครม. ให้ดีขึ้น”