‘มนพร’ เร่งเครื่องพรบ.ท่าเรือเข้าสภา 26 ก.พ.นี้ ปลดล็อก กทท.หารายได้นอกเหนือกิจการขนส่งสินค้า สั่งเร่งศึกษาแผนพัฒนา ‘ท่าเรือคลองเตย’ ดึงเอกชนร่วมทุนสร้างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า เจรจาย้ายชุมชน ขีดเส้นต้องเริ่มประมูลสร้างเฟสแรก 500 ไร่ปีนี้ ขณะที่นโยบายปั้น ‘เอนเตอร์เทนเมนต์’ เปิดช่องเป็นแผนพัฒนาอนาคต

26 ก.พ. 2568 – นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 ก.พ.68 จะเสนอร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) แล้ว เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระที่ 1 หากรับหลักการจะเข้าสู่การพิจารณาวาระที่ 2 และวาระที่ 3 หากที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบประธานสภาผู้แทนราษฎรก็จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวต่อวุฒิสภา เพื่อพิจารณา ก่อนจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2568 ซึ่งจะทำให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) สามารถประกอบกิจการอื่นได้นอกเหนือจากกิจการเกี่ยวกับท่าเรือ และการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดำเนินกิจการ เพื่อให้การใช้พื้นที่ท่าเรือเกิดประโยชน์สูงสุด

นางมนพร กล่าวต่อว่า กทท. มีแผนแม่บทในการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพอยู่แล้ว ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะเข้ารับหน้าที่ แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้นำมาดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรม ซึ่งเราเห็นโอกาสที่ต้องผลักดันให้พื้นที่ริมน้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะปัจจุบันยังใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไม่เต็มศักยภาพเท่าที่ควร โดยการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ได้พุ่งเป้าว่าต้องนำพื้นที่ของท่าเรือกรุงเทพมาทำเป็นศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งการพัฒนาเรื่องนี้สามารถพัฒนาได้บนหลายพื้นที่ในไทย แต่หากในอนาคต กทท. พัฒนาตามแผนแม่บทแล้ว และกฎหมาย Entertainment Complex มีผลบังคับใช้ ประกอบกับ กทท. มีพื้นที่เหลือก็สามารถนำมาพัฒนาเป็น Entertainment Complex ได้

สำหรับในวันที่ 27 ก.พ.นี้ จะมีผู้แทนภาคเอกชนเข้ายื่นหนังสือต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เพื่อคัดค้านการสร้าง Entertainment Complex ที่ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งเรื่องนี้ต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ไม่อยากให้เกิดแรงต้าน โดยขณะนี้ กทท. อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทฯ จำนวน 2,353 ไร่ และต้องออกแบบรายละเอียดแต่ละโซนว่าต้องทำอะไรบ้าง เบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการพัฒนาให้เกิดขึ้นได้ภายในปีนี้ โดยพื้นที่แรกคาดว่าจะเป็นพื้นที่บริเวณหน้าท่าเทียบเรือ 400-500 ไร่ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่โกดังเก่า พื้นที่เทกอง และพื้นที่ทำพิธีการด้านศุลกากร โดยในระยะแรกยืนยันจะยังไม่ลงไปดำเนินการในพื้นที่ที่มีชุมชนอาศัยอยู่ จนกว่าจะเจรจากับชุมชนเรื่องที่พักอาศัยให้จบก่อน ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ เพราะต้องมีการก่อสร้างทางพิเศษสายบางนาอาจณรงค์(S1) รวมถึงทางรถไฟเชื่อมต่อมายังท่าเรือกรุงเทพด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นท่าเรือกรุงเทพ จะแบ่งการพัฒนาเป็น 4 โซน ได้แก่ พื้นที่ Smart City กว่า 1 พันไร่, พื้นที่ Smart Port เกือบ 1 พันไร่ อาทิ ท่าเทียบเรือ, พื้นที่ Smart Community กว่า 100 ไร่ และพื้นที่ที่บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) เช่าใช้อยู่เดิม กว่า 100 ไร่ โดยโครงการสำคัญที่จะดำเนินการ อาทิ พัฒนาศูนย์กระจายสินค้า อาคารอยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า การบริหารจัดการพื้นที่หลังท่า โดยเฉพาะทางเชื่อมต่อท่าเรือกรุงเทพ และทางพิเศษ สายบางนาอาจณรงค์(S1) ลดปัญหาจราจรติดขัดรอบพื้นที่ท่าเรือ และรองรับการขยายตัวของท่าเรือ

นอกจากนี้ จะสร้างท่าเทียบเรือสำราญ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก รับเรือครุยส์ และเรือยอร์ช เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยจะพัฒนาโครงการ Bangkok Port Passenger Cruise Terminal บนพื้นที่ 67.41 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่ง และการท่องเที่ยวทางน้ำ.