นับถอยหลัง “ลิเวอร์พูล” สู่แชมป์พรีเมียร์ลีก
GH News March 01, 2025 08:06 AM

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กำลังเดินหน้าไล่ล่าแชมป์ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 หลังเกมล่าสุดบุกชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า 4 สมัยติด ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดียม 2-0 พร้อมนำห่างรองจ่าฝูง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ถึง 11 แต้ม แม้จะแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด

สิ่งที่พอจะพูดได้ในตอนนี้คือ “ลิเวอร์พูล” มีโอกาสและความหวังสูงมาก ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้งในฤดูกาลแรกของ “อาร์เน”

เพราะการพลาดท่า แพ้คาบ้านเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ของ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ต่อ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และการบุกไปเอาชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ “ลิเวอร์พูล” กลายเป็น “Turning Point” จุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างมากต่อการลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้

ตลอดเกมทั้ง 90 นาทีที่ “เอติฮัด สเตเดียม” บรรดานักเตะของทีม “ลิเวอร์พูล” ต่างเร่งเร้าแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะบุกมาเพื่อเอาชนะให้ได้ในเกมนี้

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทีมที่คิดจะเป็นแชมป์คือ “ความสม่ำเสมอ” และ “ลิเวอร์พูล” คือทีมที่สม่ำเสมอที่สุด แข็งแกร่งที่สุด เฉียบขาดที่สุด มากกว่าใครในฤดูกาลนี้

สถานการณ์ปัจจุบัน หาก “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อันดับ 2 ชนะรวดในอีก 12 นัดที่เหลือ จะมี 89 คะแนน หมายถึง “ลิเวอร์พูล” ที่ปัจจุบันมี 64 คะแนน ต้องการอีก 26 คะแนน ก็จะการันตีการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ หรือเทียบง่ายๆ คือขอแค่ชนะ 9 จาก 11 นัดที่เหลือ ทุกอย่างก็ “ปิดจ๊อบ” เรียบร้อย

แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดของ “อาร์เตตา” คืออาการบาดเจ็บของผู้เล่นมากมายตลอดฤดูกาล โดยเฉพาะแนวรุกที่จู่ๆ ก็เหมือนเข้าปีชง ทยอยเจ็บหนักไปทีละราย ตั้งแต่ บูกาโย ซากา ปีกเสาหลักที่กล้ามเนื้อด้านหลังโคนขา​ (แฮมสตริง) ฉีกขาดรุนแรง ต้องพักการเล่นมาตั้งแต่เดือนธันวาคม โดยยังไม่มีแววว่าจะกลับมาได้เมื่อไร ก่อนที่ กาเบรียล เชซุส จะเอ็นไขว้เข่าฉีกขาด ต้องพักยาวอีกร่วมปี และมาเสีย กาเบรียล มาร์ติเนลลี กับ ไค ฮาเวิร์ตซ์ ไปอีกในช่วงเก็บตัวกลางฤดูกาลที่ดูไบ โดยรายหลังปิดม่านฤดูกาลไปอีกราย

โดยโปรแกรมการแข่งขันช่วงโค้งสุดท้ายของ “ลิเวอร์พูล” จ่าฝูง และ “อาร์เซน่อล” อันดับ 2 ของตาราง โดย “หงส์แดง”เหลือ 11 เกม เริ่มจาก  วันที่ 26 กุมภาพันธ์ : นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) วันที่ 8 มีนาคม : เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า) วันที่ 2 เมษายน : เอฟเวอร์ตัน (เหย้า)วันที่ 5 เมษายน : ฟูแลม (เยือน) วันที่ 12 เมษายน : เวสต์แฮม (เหย้า) วันที่ 19 เมษายน : เลสเตอร์ (เยือน) วันที่ 26 เมษายน : สเปอร์ส (เหย้า) วันที่ 3 พฤษภาคม : เชลซี (เยือน) วันที่ 10 พฤษภาคม : อาร์เซน่อล (เหย้า)วันที่ 18 พฤษภาคม : ไบรท์ตัน (เยือน) วันที่ 25 พฤษภาคม : คริสตัล พาเลซ (เหย้า)

ส่วน “อาร์เซน่อล” เหลือ 12 เกม เริ่มจาก วันที่ 26 กุมภาพันธ์ : น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เยือน) วันที่ 9 มีนาคม : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยือน)วันที่ 16 มีนาคม : เชลซี (เหย้า) วันที่ 1 เมษายน : ฟูแล่ม (เหย้า) วันที่ 5 เมษายน : เอฟเวอร์ตัน (เยือน)วันที่ 12 เมษายน : เบรนท์ฟอร์ด (เหย้า) วันที่ 19 เมษายน : อิปสวิช (เยือน) วันที่ 26 เมษายน: คริสตัล พาเลซ (เหย้า) วันที่ 3 พฤษภาคม : บอร์นมัธ (เหย้า) วันที่ 10 พฤษภาคม : ลิเวอร์พูล (เยือน) วันที่ 18 พฤษภาคม : นิวคาสเซิ่ล (เหย้า) วันที่ 25 พฤษภาคม : เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน)

จากโปรแกรมนี้ บรรดา แฟนบอลของทั้ง 2 ทีม คงต้องลุ้นกันว่า สุดท้ายแล้ว ทีมใด จะเข้าป้าย คว้าแชมป์ไปครอบครองได้สำเร็จ แต่สำหรับ “แฟนเดอะค็อป” แล้ว จากนี้คงเป็นเวลาแห่งการนับถ้อยหลัง สู่การคว้าแชมป์ “พรีเมียร์ลีก” ของฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.