ทย. ลงนามสัญญาผู้รับจ้างใหม่ จบงานอาคารผู้โดยสาร เตรียมเปิดใช้ภายในเม.ย. 2568
GH News March 19, 2025 11:01 AM

ทย. ลงนามสัญญาผู้รับจ้างใหม่ จบงานอาคารผู้โดยสาร เตรียมเปิดใช้ภายในเม.ย. 2568

นายดนัย เรืองสอน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร (เทอร์มินอล) หลังใหม่ของท่าอากาศยานตรัง กำลังเข้าสู่ช่วงท้ายของการดำเนินงาน โดยมีความคืบหน้ารวมประมาณ 98.34% เหลืองานค้างอยู่เพียงประมาณ 1.66% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานระบบและงานปรับปรุงรายละเอียด เช่น การติดตั้งลิฟต์ สะพานเทียบเครื่องบิน และระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า พร้อมทั้งการทดสอบระบบต่าง ๆ เพื่อความพร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

นายดนัย กล่าวว่า หลังจากที่กรมท่าอากาศยานได้ทำหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาจ้างบริษัท พอร์ท แอนด์ มารีน คอร์ปอเรชั่น (พี.เอ.เอ็ม) เนื่องจากผู้รับจ้างเดิมไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดและประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ทางกรมจึงได้คัดเลือกผู้รับจ้างรายใหม่เข้ามาดำเนินงาน โดยคาดว่าจะลงนามสัญญากับผู้รับจ้างรายใหม่นี้ภายในเดือนมีนาคม 2568 และเริ่มงานทันที เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณปลายเดือนเมษายน 2568 ตามนโยบายของนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

นายดนัย ชี้แจงว่า การดำเนินงานในส่วนที่เหลือของโครงการจะใช้งบประมาณงวดท้ายสัญญาประมาณ 34.302 ล้านบาท โดยมีเงินหลักประกันสัญญาจากผู้รับจ้างเดิมอยู่ที่ประมาณ 53 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาค้ำประกันการส่งมอบงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยไม่มีผลกระทบต่อความคืบหน้าของโครงการที่มีมูลค่าสัญญารวม 1,070 ล้านบาท อีกทั้งอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ที่มีพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร เมื่อเปิดให้บริการจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารได้จากเดิมที่รองรับเพียง 600 คนต่อชั่วโมง (หรือ 1.7 ล้านคนต่อปี) ขึ้นเป็น 1,200 คนต่อชั่วโมง (หรือ 3.4 ล้านคนต่อปี) พร้อมทั้งยังรองรับที่จอดรถยนต์ได้ถึง 700 คัน

ปัจจุบันท่าอากาศยานตรังให้บริการโดยมีสายการบินไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์ และไทยไลอ้อนแอร์ โดยมีผู้โดยสารประมาณ 1,500-1,600 คนต่อวัน แม้ว่าจะยังต่ำกว่าระดับก่อนเกิดโควิด-19 ในส่วนของโครงการต่อเติมความยาวทางวิ่ง (รันเวย์) นั้น ขยายจาก 2,100 เมตรเป็น 2,990 เมตร โดยมีงบประมาณประมาณ 1,775 ล้านบาท ปัจจุบันความคืบหน้าการก่อสร้างอยู่ที่ราว 37% และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2571 โครงการนี้จะช่วยให้ท่าอากาศยานตรังสามารถรองรับอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น โบอิ้ง B747, B777 และแอร์บัส A330 ซึ่งมีความจุผู้โดยสารสูงและเปิดเส้นทางบินตรงไปยังยุโรปและเอเชียได้

ทั้งนี้ นายดนัย กล่าวว่า ความพยายามในการเร่งรัดดำเนินงานในโครงการทั้งสองส่วนนี้ ถือเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและการท่องเที่ยวในภูมิภาคตรัง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้โดยสารในอนาคต

รูปแบบอาคารผู้โดยสารใหม่ท่าอากาศยานตรัง
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.