กรมประมงเผยความสำเร็จโครงการ "Thai Fish Project" มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยสู่ตลาดโลก
GH News March 19, 2025 07:11 PM

เมื่อวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2568 ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย โดยกรมประมง เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมปิดจบโครงการ The  Final Meeting of Thai Fish Project หลังผุดงานวิจัยเด็ดครั้งแรกของโลก ภายใต้ความร่วมมือรัฐบาลไทย-ญี่ปุ่น พร้อมเปิดเวทีให้นักวิจัยนำเสนอผลงานในโครงการ Thai Fish Project เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำท้องถิ่นชนิดปลากะพงขาวและกุ้งแชบ๊วย เล็งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยในตลาดโลก โดยมี นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธาน และ Mr.Shunsuke Sakudo  Chief Representative องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทย Mr.Shunji Sugiyama Senior Advisor, JICA Dr.Tsukasa Nagamine Research supervisor จากสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น (JST) Dr.Ikuo Hirono หัวหน้าโครงการจากมหาวิทยาลัย Tokyo University of Marine Science and Technology (TUMSAT) ตลอดจนนักวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำของทั้ง 2 ประเทศ เข้าร่วมกว่า 200 ราย


          
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “Thai Fish Project” หรือ “โครงการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมสัตว์น้ำท้องถิ่นของไทยเพื่อการเพาะเลี้ยงและตอบสนองต่อตลาดโลก” ดำเนินการภายใต้ความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2562 มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำท้องถิ่นของไทย 2 ชนิด ได้แก่ ปลากะพงขาว และกุ้งแชบ๊วย ด้วยการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยง ลดความเสี่ยงการเกิดโรคสัตว์น้ำ และยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำไทยให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น (JST) ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (SATREPS) ซึ่งประเทศไทยโดยกรมประมงเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับ Tokyo University of Marine Science and Technology (TUMSAT) ประเทศญี่ปุ่น และนักวิจัยจากสถาบันวิจัยชั้นนำของทั้ง 2 ประเทศ มุ่งเน้นการศึกษาทางวิชาการที่ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 4 ด้านสำคัญ ประกอบด้วย  


          
1. การสร้างพันธุกรรมที่ดี : พัฒนาเทคโนโลยีการผสมพันธุ์ โดยศึกษาความหลากหลายทางพันธุกรรมและใช้เทคนิคทางโมเลกุลเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ที่มีคุณลักษณะทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่า ทนทานต่อโรค และมีการเจริญเติบโตดีขึ้น 
          
2. เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันโรค : ลดการระบาดของโรคในสัตว์น้ำ ด้วยการพัฒนาวิธีการตรวจและวิธีการป้องกันที่สามารถใช้งานได้จริงในภาคสนาม


          
3. พัฒนาวิธีการเลี้ยงและเพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ : คิดค้นสูตรอาหารที่เสริมคุณค่าทางโภชนาการในสัตว์น้ำ และพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงที่มีความทันสมัย สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับปลากะพงขาวและกุ้งแชบ๊วย
          
4. อนุรักษ์ทรัพยากรทางพันธุกรรม : ศึกษาวิธีการเก็บรักษาสารพันธุกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อสร้างธนาคารพันธุกรรม รักษาความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ของสัตว์น้ำท้องถิ่น และป้องกันผลกระทบจากการเพาะเลี้ยงที่อาจทำให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมลดลง 


          
โดยมีการแบ่งงานวิจัยออกเป็น 9 กลุ่มย่อย และมีผลงานวิจัยที่โดดเด่นภายใต้โครงการ อาทิ
          
- โปรแกรมปรับปรุงพันธุ์โปรแกรมแรกของโลก ที่ศึกษาความทนทานของปลากะพงขาวต่อโรค ISKNV และความทนทานต่อการลดลงของออกซิเจน โดยสามารถพัฒนาเครื่องหมายโมเลกุลจำนวน 42 ตำแหน่ง สำหรับช่วยในการคัดเลือกปลากะพงขาวที่มีลักษณะตรงตามความต้องการของตลาดได้


          
- ค้นพบวิธีการเก็บรักษาเซลล์สืบพันธุ์ในสัตว์จำพวกครัสเตเชียนครั้งแรกของโลก โดยทำการศึกษาวิจัยในกุ้ง 3 ชนิด ได้แก่ กุ้งแชบ๊วย กุ้งกุลาดำ และกุ้งก้ามกราม ด้วยเทคนิคการแช่เยือกแข็งแบบรวดเร็ว โดยใช้สาร DMSO ที่ความเข้มข้นร้อยละ 10 ซึ่งให้ผลดีในกุ้งแชบ๊วย และกุ้งก้ามกราม ในขณะที่กุ้งกุลาดำใช้ Glycerol ที่ความเข้มข้นร้อยละ 10 ให้ประสิทธิภาพการเก็บรักษาดีที่สุด ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบในการสร้างธนาคารพันธุกรรมกุ้ง และขยายผลต่อยอดไปยังสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ได้ 


         
 นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาสูตรอาหารเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในปลากะพงขาวที่สามารถผลิต “ปลากะพงขาว High DHA” โดยเสริมสาหร่ายขนาดเล็ก Schizochytrium sp. ลงในสูตรอาหาร ซึ่งสามารถเพิ่ม DHA ในปลากะพงขาวได้สูงขึ้น อีกทั้ง ยังได้ขยายผลต่อยอดงานวิจัยโดยพัฒนาสารเคลือบอาหารที่มี DHA สูงและนำไปทดลองเลี้ยงในระดับฟาร์ม เป็นโมเดลต้นแบบการเสริมคุณค่าทางโภชนาการในสัตว์น้ำ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี


          
“จากความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีและการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรพันธุกรรมท้องถิ่น ภายใต้โครงการ Thai Fish Project นี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับภาคอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของไทย ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดโลกได้ทุกมิติ ครอบคลุมทั้งด้านคุณภาพ ปริมาณการผลิต ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคระบาดและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เกิดองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่ที่จะกลายเป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมสัตว์น้ำของไทยได้อย่างยั่งยืนต่อไป”…รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย

 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.