ปัญหาสุขภาพในวัยทำงานเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด ปัจจุบันพบว่าคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนวัยทำงานกำลังเผชิญปัญหาป่วยโรคไม่ติดต่อ หรือ NCDs ซึ่งมีสาเหตุจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ การขาดการออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมเนือยนิ่งจากการทำงานที่ต้องนั่งโต๊ะเป็นเวลานาน ขณะเดียวกัน ความเครียดจากภาระงานหนักยังอาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพจิต เพื่อรับมือกับปัญหานี้ หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้อต่อสุขภาพของพนักงานมากขึ้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร จัดงานประกาศรางวัลองค์กรสุขภาวะดีเด่น เพื่อการส่งเสริมการมีวิถีชีวิตสุขภาวะทั้ง 4 มิติ ภายใต้โครงการส่งเสริมงานสุขภาวะในองค์กรเพื่อคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี เดินหน้าชวนสถานประกอบการไทย ใช้แนวคิดองค์กรสุขภาวะ
(Happy workplace) และความสุข 8 ประการ (Happy 8) สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้คนทำงานมีความสุขและสุขภาวะดี เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 68 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันวัยทำงานเผชิญกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น ปัญหาสุขภาพจิตที่กำลังทำให้คนวัยทำงานเกิดภาวะหมดไฟ หมดพลัง ดังนั้นการที่องค์กรได้กลับมาช่วยกันในการสานพลัง เรียนรู้ร่วมกัน จะทำให้คนวัยทำงานมีพลัง มีสุขภาพทั้งทางกายและทางใจดีขึ้น
สสส. ได้มอบรางวัลสำหรับองค์กรที่มีกระบวนการทำงานมาอย่างยาวนาน ร่วมกับสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อบรมเจ้าหน้าที่ต่างๆ ให้กลับไปดูแลคนวัยทำงาน พร้อมวัดผลหลังจากองค์กรมีส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพให้กับพนักงาน โดยพบว่า มีพนักงานกว่า 40,000 คนที่ออกกำลังกาย และ 13% ที่สามารถออกกำลังกายแล้วน้ำหนักลดลง จากการคัดกรองสุขภาพจิต พบว่า พนักงาน 10,000 คน คิดเป็น 19% มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น มีคนเลิกสูบบุหรี่ได้ 100 กว่าคน สูบลดลงถึง 600 คน มีคนเลิกดื่มสุราได้ 200 กว่าคน ดื่มสุราน้อยลง 1,000 คน ทั้งหมดนี้วัดผลลัพธ์ได้ว่าคนมีสุขภาพที่ดีในแง่ของพฤติกรรม ระยะยาวการเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังก็จะน้อยลง
“ทุกจุดของการดูแลสุขภาพต้องเริ่มวันนี้ เริ่มจากวัยทำงาน อายุ 30 – 40 ปีดูแลสุขภาพ ออกกำลังกาย ผลลัพธ์ก็จะเกิดขึ้นในช่วงอายุ 40 – 50 ปีขึ้นไป แข็งแรง ทำงานได้ดีขึ้น ลางานน้อยลง ป่วยน้อยลง พิการน้อยลง และในที่สุดเมื่อเขาเกษียณแล้ว เขาก็ยังมีสุขภาพแข็งแรง ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยที่แข็งแรง ไม่ติดเตียง ไม่ต้องพึ่งพาญาติมิตร ทั้งหมดนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจกับทางสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร มหาวิทยาลัยมหิดล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่จะมาทำงานร่วมกัน การมอบรางวัลเป็นการประกาศว่าพวกเขาทำได้สำเร็จ มีผลลัพธ์ในด้านต่างๆ
สำคัญคืออาจจะมีคนที่ทำได้ดีแต่ละเรื่อง เราคาดหวังว่าเขาจะได้มาแลกเปลี่ยนกัน และเป็นต้นแบบให้กับองค์กรอื่นๆ ที่อยู่รอบข้าง” ผู้จัดการกองทุน สสส. อธิบาย นายสิทธิพร กล้าแข็ง ผู้จัดการสมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร และผู้จัดการโครงการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กร เสริมว่า การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมสุขภาวะคนทำงานในองค์กรครั้งนี้ สมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กรได้รับการสนับสนุนจาก สสส. ให้เข้าไปขับเคลื่อนเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพให้กับคนในองค์กร โดยมุ่งหวังให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้กับคนในองค์กร โดยเฉพาะการลดปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ทำให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
“แนวทางการขับเคลื่อนช่วงแรกคือ ให้องค์กรที่สนใจเข้าร่วมสมัครเข้ามา โดยเรามีการคัดเลือก ดูความเหมาะสม ความพร้อม ความตั้งใจของทีมงานในการที่จะไปขับเคลื่อนเรื่องสุขภาวะให้กับคนในองค์กร หลังจากนั้นทางทีมได้เข้าไปพัฒนาศักยภาพ โดยนำชุด Healthy Lifestyle Package ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทางทีม สสส. ได้พัฒนาขึ้นมา ผ่านทีมสมาคมไปสู่องค์กรเพื่อนำไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์เชิงสุขภาพอย่างแท้จริง รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยน ศึกษาดูงาน และเก็บข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ผลการตรวจสุขภาพประจำปี ผลการวัดความสุขต่างๆ สิ่งที่เห็นชัดเจนคือการปรับพฤติกรรมในเรื่องการลดปัจจัยเสี่ยง อาทิ การเลิกสุรา – บุหรี่ ลดพฤติกรรมสูบ – ดื่ม เหล่านี้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรมที่เป็นตัวเลขเชิงสถิติอย่างชัดเจน
“หากคนทำงานสุขภาพไม่ดี มีความวิตกกังวล หรือมีคุณภาพชีวิตที่ไม่สมบูรณ์ ก็มีส่วนทำให้ผลผลิตไม่ดีไปด้วย ฉะนั้น เรื่องของสุขภาพกาย สุขภาพจิต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องส่งเสริมให้เกิดขึ้นกับคนในองค์กร รวมทั้งการปรับสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่จะเอื้อให้คนทำงานในองค์กรทำงานได้อย่างมีความสุข” นายสิทธิพร เน้นย้ำ
