8 ปีติด! ฟินแลนด์ครองอันดับ 1 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ไทยรั้งที่ 49
ประเทศฟินแลนด์ถูกจัดจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ตามรายงาน World Happiness Report 2025 ที่เผยแพร่โดย Wellbeing Research Centre แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด เมื่อวันที่ 20 มีนาคม
ประเทศนอร์ดิกอื่นๆ ก็พากันอยู่ในอันดับสูงสุดของการจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกติดต่อกัน โดยนอกจากฟินแลนด์แล้ว เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ และสวีเดนยังรั้งตารางประเทศที่มีความสุข 4 อันดับแรกของโลก และยังอยู่ในลำดับเดิมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
ขณะที่ประเทศไทยรั้งอันดับที่ 49 จาก 143 ประเทศหรือภูมิภาคในการสำรวจ โดยเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดลำดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ซึ่งอยู่ในอันดับ 34 และเวียดนามที่อยู่ในอันดับ 46
การจัดอันดับประเทศที่มีความสุขนั้นอิงจากคำตอบของผู้คนเมื่อถามถึงชีวิตของพวกเขา โดยการศึกษาดังกล่าวเป็นการดำเนินการร่วมกับบริษัทวิเคราะห์ Gallup และ UN Sustainable Development Solutions Network
จอน คลิฟตัน ซีอีโอของ Gallup กล่าวว่า ความสุขไม่ใช่แค่เรื่องของความมั่งคั่งหรือการเติบโต แต่มันยังเกี่ยวกับความไว้วางใจ การเชื่อมโยง และการรู้ว่าเรามีคนที่คอยสนับสนุนเรา หากเราต้องการชุมชนและเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น เราต้องลงทุนในสิ่งที่สำคัญอย่างแท้จริง นั่นคือกันและกัน
นักวิจัยกล่าวว่า นอกเหนือจากสุขภาพและความมั่งคั่งแล้ว ยังมีปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลต่อความสุขที่ฟังดูเรียบง่าย เช่น การรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น การมีใครสักคนที่สามารถพึ่งพาเพื่อการสนับสนุนทางสังคม และขนาดของครัวเรือน การศึกษาดังกล่าวระบุว่า ตัวอย่างที่พบเช่นในเม็กซิโกและยุโรป ขนาดครัวเรือนที่มีสมาชิก 4-5 คนสามารถทำให้คนมีระดับความสุขสูงสุด
ผลการวิจัยล่าสุดนี้ยังชี้ว่า การเชื่อในความเมตตากรุณาของผู้อื่นก็มีความสัมพันธ์กับความสุขมากกว่าที่เคยคิดไว้อีกด้วย โดยรายงานดัชี้ให้เห็นว่าคนที่เชื่อว่าผู้อื่นเต็มใจที่จะคืนกระเป๋าสตางค์ที่หายไป เป็นตัวบ่งชี้ถึงความสุขโดยรวมของประชากรได้เป็นอย่างดี โดยผลการศึกษาพบว่าประเทศนอร์ดิกอยู่ในอันดับต้นๆ ของสถานที่ที่จะมีการคืนกระเป๋าสตางค์ที่หายไปตามที่คาดหวังและได้รับคืนจริงๆ มากที่สุด
โดยรวมแล้ว นักวิจัยระบุว่าหลักฐานทั่วโลกเกี่ยวกับการคืนกระเป๋าสตางค์ที่หายไปทั้งที่เกี่ยวกับรับรู้และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงนั้นแสดงให้เห็นว่า ผู้คนมักจะมองในแง่ร้ายเกินไปเกี่ยวกับความมีน้ำใจของชุมชนของตนเมื่อเทียบกับความเป็นจริง โดยอัตราการคืนกระเป๋าสตางค์จริงนั้นสูงกว่าที่ผู้คนคาดหวังไว้ถึงสองเท่า
แม้ว่าประเทศในยุโรปจะครองอันดับ 20 อันดับแรกในการจัดอันดับดังกล่าว แต่ก็มีบางประเทศที่มีข้อยกเว้น แม้ว่าจะเกิดสงครามกับฮามาส แต่ประเทศอิสราเอลก็อยู่ในอันดับที่ 8 คอสตาริกาและเม็กซิโกเข้ามาอยู่ใน 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรก โดยอยู่ในอันดับที่ 6 และ 10 ตามลำดับ ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาตกมาอยู่ในอันดับต่ำสุดในการจัดอันดับความสุข
เมื่อพูดถึงความสุขที่ลดลงหรือความทุกข์ที่เพิ่มมากขึ้น สหรัฐอเมริกาตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 24 ซึ่งถือเป็นอันดับต่ำสุดเท่าที่เคยได้ ก่อนหน้านี้สหรัฐเคยอยู่ในอันดับที่ 11 ในปี 2012 รายงานระบุว่าจำนวนคนที่รับประทานอาหารคนเดียวในสหรัฐเพิ่มขึ้น 53% ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา
ด้านสหราชอาณาจักรก็ตกลงมาอยู่ที่อันดับ 23 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการทำรายงานในปี 2017
อัฟกานิสถานถูกจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ไม่มีความสุขมากที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยผู้หญิงอัฟกานิสถานกล่าวว่าชีวิตของพวกเธอยากลำบากอย่างยิ่ง ขณะที่ประเทศเซียร์ราลีโอนในแอฟริกาตะวันตกเป็นประเทศที่ไม่มีความสุขมากที่สุดลำดับ 2 ตามด้วยเลบานอนที่รั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง
ผลวิจัยยังชี้ด้วยว่า เกือบ 1 ใน 5 ของคนหนุ่มสาวไม่มีการสนับสนุนทางสังคม สิ่งนี้ถือเป็นพัฒนาการที่น่ากังวล ผลการศึกษาในรายงานปี 2023 ระบุว่าคนหนุ่มสาวทั่วโลกร้อยละ 19 บอกว่า พวกเขาไม่มีใครที่พึ่งพาได้สำหรับการสนับสนุนทางสังคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39 เมื่อเทียบกับปี 2006
ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา สังคมวิทยา และอื่นๆ พยายามอธิบายความแตกต่างในแต่ละประเทศและในช่วงเวลาต่างๆ โดยใช้ปัจจัยหลายประการ อาทิ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศต่อหัว อายุขัยที่มีสุขภาพดี การมีคนที่สามารถพึ่งพาได้ ความรู้สึกมีอิสรภาพ ความเอื้อเฟื้อ และการรับรู้ถึงการทุจริต