วุฒิสภายืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตเหตุแผ่นดินไหว
GH News March 31, 2025 10:07 PM

ที่ประชุมวุฒิสภายืนไว้อาลัยผู้เสียชีวิต เหตุแผ่นดินไหว แจ้งผลตรวจสอบอาคารมั่นคง- ปลอดภัย  พบรอยร้าวไม่กระทบโครงสร้าง พร้อมจัดอุปกรณ์ความปลอดภัยเตรียมพร้อมให้ ส.ว.ใช้ระหว่างอพยพเมื่อมีภัยพิบัติ  "นพดล" บอกวันเกิดเหตุ สุดงงหาทางหนีไฟออกจากอาคารไม่เจอ ย้ำให้ตระหนักการซ้อมอพยพ

เมื่อเวลา 31 มี.ค.68 ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเมียนมาและรับรู้ได้ถึงประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย โดยในนามของสว.ขอส่งความห่วงใยถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบและแสดงวามเสียใจสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ ส.ว.ร่วมยืนไว้อาลัยกับผู้เสียชีวิต 1 นาที  นอกจากนี้ในการประชุม ได้มีการนำหมวกนิรภัย เสื้อเรืองแสง ไฟฉาย มาวางไว้ด้านหน้าของ ส.ว. แต่ละคน เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันด้วย

นายบุญส่ง แจ้งด้วยว่า หลังจากเกิดสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 28 มี.ค.68 ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้นำทีมวิศวกรจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจสอบพื้นที่เมื่อวันที่ 29 มี.ค.68 และผลการตรวจสอบยืนยันมั่นคงแข็งแรงปลอดภัยและเปิดทำการได้ตามปกติ และเมื่อวันที่ 30 มี.ค.68นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นำ ส.ว. ผู้บริหารและบุคลากรของสำนักงานเลขาธิการสภา ซักซ้อมแผนอพยพ เพื่อความปลอดภัย และนำอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย คือ หมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง นกหวีด เพื่อเตรียมความพร้อม


ขณะที่ นายนพดล อินนา ส.ว. ที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา ได้รายงานถึงการร่วมตรวจพื้นที่อาคารวุฒิสภา ซึ่งได้สวมหมวกนิรภัย เสื้อสะท้อนแสง ประกอบการอภิปราย ด้วยว่า ในวันเกิดเหตุการณ์ตนอยู่ที่อาคารรัฐสภาและเตรียมประชุมกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ชั้น4  ฝั่งตึกสภาฯ ซึ่งพบมีการสั่นไหว โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเวียนหัวเหมือนจะเป็นลม แต่ตนในฐานะวิศวกร รู้สึกเร็วและแจ้งว่าไม่ใช่อาการเวียนหัว จึงบอกว่าแผ่นดินไหว และให้เจ้าหน้าที่วิ่งตามตนออกจากพื้นที่

"ผมเป็น ส.ว. ไม่คุ้นเคยกับอาคารฝั่ง ส.ส. ทำให้ไม่รู้ว่าประตูหนีไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ทางไหน แต่มีเจ้าหน้าที่ที่รับราชการฝั่ง ส.ส.ที่รู้จุดได้บอกให้คนที่อยู่ชั้น3 นั้นวิ่งตามออกไป ลงมาชั้นหนึ่งได้ แต่เนื่องจากอาคารกว้างขวาง ไม่รู้ว่าจุดรวมพลอยู่ตรงไหน และประตูไหนที่ใกล้ที่สุด" นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 30 มี.ค. ได้มีการประชุมและให้วิศวกรที่เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอำนาจตามกฎหมาย มาตรวจสอบซึ่งวิศวกรที่มาตรวจเคยเป็นวิศวกรที่ควบคุมงานก่อสร้างรัฐสภา จึงแจ้งว่าระบบก่อสร้างมั่นคงเพราะเจาะเข็มลึก 64-65 เมตร และจากการตรวจสอบตั้งแต่ชั้นใต้ดินบีสอง ถึงชั้นสอง ห้องประชุมจันทรา โดยวิศวกรได้เดินตรวจสอบเสา คาน พื้น ผนัง โครงสร้าง และกล่องลิฟท์อย่างละเอียดไม่พบรอยร้าวในระดับวิกฤต ส่วนใหญ่ที่พบเป็นพื้นผิวปูนฉาบ วิศวกรยืนยืนว่าไม่ร้าวถึงโครงสร้าง

นายนพดล กล่าวด้วยว่าส่วนสะพานเชื่อมระหว่าง2 อาคาร ผลการตรวจสอบทั้งหมดไม่พบข้อบ่งชี้ที่มีปัญหา แต่มีข้อเสียหายบ้างเล็กน้อยจากปูนฉาบ ที่ร่วมไม่ถึง 1 ตารางเมตร บริเวณจุดจอดรถจักรยานยนต์ ชั้นบีหนึ่งสั่งกั้นพื้นที่ไม่ให้เกิดอันตราย ขณะที่ฝั่งสภาฯ ทราบว่าได้ส่งทีมวิศวกรตรวจสอบ ทราบเบื้องต้นว่า โครงสร้างฝั่ง ส.ส. และ ส.ว. ปลอดภัย ใช้งานได้

"ผมเห็นว่าต้องสร้างความตระหนักในการซ้อมแผนอพยพเพื่อมีเหตุภัยพิบัติหากไม่ซ้อม จะไม่รู้ว่าทางหนีไฟจากห้องประชุมไปสู่ภายนอก จุดไหนใกล้และปลอดภัยที่สุด เมื่อถึงชั้นล่างจะไปทางจุดรวมพลได้อย่างไร ดังนั้นการซ้อมจึงจำเป็น ส่วนการแจ้งภัยเมื่อมีเหตุ ต้องส่งข้อความผ่านกลุ่มไลน์ ส.ว. ทั้งนี้คาดว่าจะมีผลกระทบจากแผ่นดินไหว อีกระยะหนึ่งต้องใส่ใจดูสิ่งต่างๆ รอยแยกมมากขึ้นหรือไม่" นายนพดล กล่าว

ขณะที่นายรุ่งธรรม เปรมมางกูร รองเลขาธิการวุฒิสภา ชี้แจงต่อมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่วุฒิสภาและมีการซ้อมเจ้าหน้าที่ที่ถือธงนำให้ออกไปจากห้องประชุมเมื่อมีเหตุภัยพิบัติ ดังนั้นให้ไววางใจสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่จะดูแลความปลอดภัยเต็มที่

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.