วันที่ 2 เมษายน 2568 เวลา 15.00 น.นายพัชรพัชร์ ศรีธัญญนนท์ นายอำเภอบางละมุง , พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บางละมุง , พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จว.ชลบุรี นำกำลัง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ตำรวจชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบ ในสังกัดสภ.บางละมุง และ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าทำการตรวจค้นโกดังเก็บและกระจายสิ้นค้า ของกลุ่มนายทุนชาวจีน  ม.7 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า มีกลุ่มนักธุรกิจชาวจีน เปิดโกดังเก็บสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมาย

ในการตรวจสอบเบื้องต้นโกดังสินค้าดังกล่าว  มีเนื้อที่ประมาณ 1 งาน สินค้าที่กักเก็บอยู่ในโกดังมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยารักษาโรค  สินค้าที่ใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง  สิ้นค้าของตกแต่งบ้าน  สิ้นค้าอิเล็กทรอนิกส์ และ สิ่งเทียมอาวุธ มีทั้ง อาวุธปืนปลอม สนับมือ กระบองโซ่บรูซลี จำนวนมาก โดยสินค้าส่วนใหญ่ ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน ถูกวางกองพะเนินเต็มโกดัง นอกจากนี้ยังพบ ชายชาวจีน 1 คน ชายไทย 1 คน และผู้หญิงไทย 2 คน กำลังแพ็คสินค้าใส่กล่องพัสดุ เตรียมส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้จึงสั่งให้ยุติ การทำงาน พร้อมทั้ง ให้นำเอกสาร การนำเข้าสินค้าดังกล่าวมาแสดง แต่ปรากฏว่าคนที่อยู่ภายในโกดังไม่สามารถนำเอกสารมาแสดง ที่มาของสินค้าดังกล่าวได้ เบื้องต้นจึงทำการตรวจยึด สินค้าทั้งหมดไว้ทำการตรวจสอบ

ขณะเดียวกันตำรวจ ได้เชิญตัว นายหลิน เฉิน อายุ 32 ปี ชาวจีน ซึ่งรับเป็นผู้ดูแลโกดัง ให้ข้อมูลกับตำรวจในเบื้องต้นว่า ตนเองเป็นเพียงลูกจ้าง ส่วนนายจ้างเป็นชาวจีนเหมือนกัน โดยเจ้าของตังจริงอ้างว่าเดินทางกลับประเทศจีนไปแล้ว แต่มอบหมายให้ ตนเองดูแลสินค้าและแพ็คจัดส่ง โดยเพิ่งมาทำงานไม่กี่เดือน ส่วนสินค้าที่นำมาเก็บไว้ในโกดังส่วนใหญ่ ถูกส่งมาจากประเทศจีน โดยมาทางเรือขนส่งสินค้า จากนั้นจะเดินทางไปรับนำมาเก็บที่โกดัง จากนั้นก็จะคอยรอรับจากฝ่ายขาย ซึ่งจะมีการนำเสนอขายสินค้าด้วยการไลฟ์สด และ นำเสนอขายบนโลกออนไลน์ พอมีลูกค้าสนใจและออเดอร์สิ้นค้า ข้อมูลก็จะถูกส่งมาให้ตนเอง เพื่อทำการแพ็คและจัดส่งให้กับลูกค้าอีกรอบหนึ่ง 

โดย เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบสินค้าอย่าง โดยพบว่าสินค้าบางตัวไม่ได้มาตรฐาน อาหารเสริม ยารักษาโรค ต่างๆ ก็ไม่มี อย. ระบุอยู่ในตัวสินค้า และถ้าหากสินค้าดังกล่าวถูกนำไปใช้อาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ยังได้ตรวจยึด สิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งค่อนข้างเหมือนของจริงมาก และ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย จึงได้ทำการตรวจยึด ก่อนควบคุมตัว ชาวจีน รวมถึงพนักงานคนไทย ไปทำการสอบสวน เพื่อขยายผลติดตาม เจ้าของตัวจริง เพื่อมานำดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป