บอร์ด กสทช. ถกต่อเนื่อง 2 ครั้ง บี้โหวตเกณฑ์ประมูลคลื่นความถี่ล็อตใหม่  ลดย่านความถี่ที่จะนำมาประมูลจาก 6 เหลือ 4 ย่านความถี่สำคัญ 850, 1500, 2100 และ 2300 MHz ที่กำลังจะหมดอายุใบอนุญาต พร้อมเพิ่มราคาประมูลคลื่นความถี่สำคัญ 150 – 1,100 ล้านบาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ด กสทช.) มีการนัดประชุมวาระต่อเนื่องจากในเช้าวันนี้ สืบเนื่องจากการประชุม เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยประเด็นสำคัญ คือ การประมูลคลื่นความถี่สากล จำนวน 6 คลื่นความถี่ ที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะครั้งที่สองแล้ว ซึ่งมีการโหวตตัดสินว่าจะเพิ่มหรือลดราคาขั้นต่ำในการประมูลคลื่นความถี่ รวมถึงการลดจำนวนย่านความถี่ที่จะประมูลลง เหลือเพียง 4 ย่านความถี่เท่านั้น

จากเดิมใน (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล มี 6 ย่านความถี่ การประมูลรวมปริมาณทั้งสิ้น จำนวน 450MHz รวมราคาเริ่มต้นมีมูลค่าราว 1.2 แสนล้านบาท ได้แก่

• ความถี่ 850 MHz จำนวน 2 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2×5 MHz ราคาเริ่มต้น 6,609 ล้านบาท
• ความถี่1500 MHz จำนวน 11 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 MHz ราคาเริ่มต้น 904 ล้านบาท
• ความถี่1800 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 2×5 MHz ราคาเริ่มต้น 6,219 ล้านบาท
• ความถี่ 2100 MHz จำนวน 12 ชุด ความถี่ ใบอนุญาตละ 2×5 MHz ราคาเริ่มต้น 3,391 ล้านบาท
• ความถี่ 2100 MHz จำนวน 3 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 5 MHz ราคาเริ่มต้น 497 ล้านบาท
• ความถี่ 2300 MHz จำนวน 7 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 10 MHz ราคาเริ่มต้น 1,675 ล้านบาท
• ความถี่ 26 GHz จำนวน 1 ชุดความถี่ ใบอนุญาตละ 100 MHz ราคาเริ่มต้น 423 ล้านบาทท

แหล่งข่าวจาก กสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ วันนี้ ได้มีการลงมติให้มีการประมูลคลื่นเพียง 4 ย่าน ได้แก่ความถี่ 850, 1500, 2100 และ 2300 MHz เท่านั้น และให้เพิ่มราคาการประมูลคลื่นขั้นต่ำ ดังนี้

• 850 MHz ราคา 7,738.23 ล้านบาท จากเดิม 6,609 ล้านบาท
• 1500 MHz ราคา 1,057.49 ล้านบาท จากเดิม 904 ล้านบาท
• 2100 MHz ราคา 4,500 ล้านบาท จากเดิม 3,391 ล้านบาท
• 2300 MHz ราคา 2,596.15 ล้านบาท จากเดิม 1,675 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่า คลื่นความถี่ทั้ง 4 เป็นคลื่นที่กำลังจะหมดอายุใบอนุญาตใช้งาน ซึ่งเดิมเป็นของ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT ทว่ามีการใช้งานอยู่แล้ว 3 ย่าน คือ 850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz เป็นคลื่นสำคัญที่คาดว่าจะมีการแข่งขันสูง ทั้งสามย่านราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 900-1,200 พันล้านบาท ส่วนคลื่น 1500MHz ขึ้นราคามา 153 ล้านบาทเท่านั้น ด้วยไม่มีระบบนิเวศที่รองรับในทางธุรกิจที่น่าดึงดูด

ในส่วนของกำหนดการนั้น จากการประชุมบอร์ด เมื่อ 18 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ได้กำหนดวันประมูลคลื่นความถี่ให้เป็นวันที่ 29 มิ.ย. 2568 หลังจากเปิดขั้นตอนรับคำขอใบอนุญาตและตรวจสอบคุณสมบัติตั้งแต่เดือนเมษายน

โดยจะประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลระหว่างวันที่ 29 เม.ย. – 28 พ.ค. 2568 และให้ยื่นคำขอเข้าร่วมภายในวันที่ 29 พ.ค. 2568

จากนั้น จะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขอรับใบอนุญาตจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ค. – 5 มิ.ย. 2568 ก่อนเสนอผลต่อคณะกรรมการ กสทช. เพื่อพิจารณาและแจ้งผลในช่วงวันที่ 6 – 13 มิ.ย. 2568 โดยอุทธรณ์ผลการพิจารณาได้ในวันที่ 12, 13 และ 18 มิ.ย. 2568

จากนั้น สำนักงาน กสทช. จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 19 มิ.ย. 2568 พร้อมจัดการประมูลจำลอง (Mock Auction) เพื่อเตรียมความพร้อมในวันที่ 23 มิ.ย. 2568 ก่อนเข้าสู่การประมูลจริงในวันที่ 29 มิ.ย.ดังกล่าว

สำหรับกรอบงบประมาณในการจัดประมูล ได้กำหนดไว้แบ่งต้นที่ 70 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น

1.ค่าใช้จ่ายสถานที่จัดการประมูล ค่าระบบคอมพิวเตอร์ ค่าจ้างผู้บริการจัดการงานประมูลและค่าใช้จ่ายสำรองอื่นๆ, ค่าจ้างเหมาบริการเพื่อจัดงานด้านสถานที่ อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวก 12 ล้านบาท, ค่าใช้จ่ายด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบกล้องวงจรปิด 3 ล้านบาท

2.ค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษา/ผู้เชี่ยวชาญ, ค่าจ้างผู้รับตรวจคุณสมบัติผู้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 5 ล้านบาท, ค่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 20 ล้านบาท

3.ค่าใช้จ่ายในการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทั้งทั้งก่อนและหลังการประมูล 30 ล้านบาท, ค่าจ้างผลิตและเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการประมูล, ค่าจ้างผลิตและเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสารออนไลน์คลิปประชาสัมพันธ์ข้อมูล, ค่าจ้างผลิตและเผยแพร่ภาพยนต์สั้นรูปแบบไวรัล ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการประมูลคลื่นความถี่