ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวผสมผสานเช้านี้ (18 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาดในวันพุธ (17 ก.ย.) โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการจัดการความเสี่ยง มากกว่าจะเป็นมาตรการพยุงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
เฟดยังส่งสัญญาณว่าจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้, 1 ครั้งในปี 2569 และ 1 ครั้งในปี 2570 และจะไม่มีการปรับลดในปี 2571
- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติ 11 ต่อ 1 เสียง อนุมัติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมวานนี้ (17 ก.ย.) ตามการคาดการณ์ของตลาด
สตีเฟน มิแรน ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะผู้ว่าการเฟด โหวตสวนมติในที่ประชุม FOMC โดยเขาลงมติให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50%
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ก่อนสิ้นปีนี้
- เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินในวันพุธ (17 ก.ย.) โดยกล่าวว่า การตัดสินใจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในวันพุธนั้น สะท้อนถึงความต้องการที่จะควบคุมความเสี่ยงที่มีต่อเศรษฐกิจ
"คุณอาจมองว่านี่เป็นการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง" พาวเวลกล่าว และเสริมว่า "ภาพความเสี่ยงที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างมากได้ปรากฏให้เห็นแล้ว เนื่องจากตลาดแรงงานเริ่มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ พาวเวลกล่าวว่า การจ้างงานมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะขาลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงต้องมีการประเมินและต้องควบคุม
- ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้ สู่ระดับ 1.6% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 1.4% ขณะที่คงตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อและอัตราว่างงานในปีนี้
ทั้งนี้ เฟดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2568, 2569 และ 2570 อยู่ที่ระดับ 1.6%, 1.8% และ 1.9% ตามลำดับ จากเดิมคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะมีการขยายตัว 1.4%, 1.6% และ 1.8% ตามลำดับ ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%
นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2568, 2569 และ 2570 อยู่ที่ระดับ 4.5%, 4.4% และ 4.3% ตามลำดับ จากเดิมคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.5%, 4.5% และ 4.4% ตามลำดับ ขณะที่อัตราการว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.2%
ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อตามดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ในปี 2568, 2569 และ 2570 อยู่ที่ระดับ 3.1%, 2.6% และ 2.1% ตามลำดับ จากเดิมคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.1%, 2.4% และ 2.1% ตามลำดับ
- บรรดาธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในวันพุธ (17 ก.ย.) เพื่อช่วยลดภาระต้นทุนการกู้ยืมของผู้บริโภค หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกของปีนี้
เจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase), ซิตี้กรุ๊ป (Citigroup), เวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) และแบงก์ออฟอเมริกา (Bank of America) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (prime lending rate) ลงมาอยู่ที่ 7.25% จากเดิม 7.50% ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดลง 0.25% ซึ่งนับเป็นการปรับลดครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว
- ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ (17 ก.ย.) สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด
- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า สำนักงานบริหารไซเบอร์สเปซของจีน (CAC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของจีน ได้สั่งให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ซึ่งรวมถึง ByteDance และ Alibaba ระงับการซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของ Nvidia รวมทั้งยกเลิกคำสั่งซื้อก่อนหน้านี้
- ธนาคารดอยซ์แบงก์ ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในปีหน้า สู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำของธนาคารกลาง การอ่อนค่าของดอลลาร์ และวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
- กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ประกาศระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากอาร์เจนตินา หลังพบการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1
ฟรานซิสโก ทิว ลอเรล รัฐมนตรีเกษตรฟิลิปปินส์กล่าวว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวครอบคลุมถึงเนื้อสัตว์ปีก ลูกไก่อายุหนึ่งวัน ไข่ รวมทั้งน้ำเชื้อสำหรับการผสมเทียม โดยให้เหตุผลว่าเชื้อไวรัส H5N1 เป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพสัตว์และสุขภาพของประชาชน
- ข้อมูลและเหตุการณ์เศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ (18 ก.ย.) บราซิลเปิดเผยธนาคารกลางบราซิลแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนส.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.ย.จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค.จาก Conference Board