19 ก.ย. 2567 จากกรณีคนร้ายฆาตกรรมโหด สองพ่อลูกนายฮ้อย คือ นายเหรียญ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี และ นายปิยพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี บริเวณป่าละเมาะพื้นที่บ้านหนองโก ต.โคกพระ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ก่อนนำร่างใส่รถกระบะไปทิ้งบริเวณ ทุ่งนาบริเวณบ้านโนนสวรรค์ หมู่ที่ 8 ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ชุดสืบสวนสภ.ยางตลาด ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 งพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเก็บหลักฐานสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง โดยพุ่งเป้าไปที่บุคคลที่รู้จักกับสองพ่อลูกที่เสียชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มนายฮ้อยด้วยกัน
กระทั่งพบชายต้องสงสัย คือนายชลนที หรือยอด อายุ 20 ปี ชาวบ้านขี้เหล็ก ม.3 ต.กุดไส้จ่อ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ซึ่งบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ และเป็นนายฮ้อยด้วยกัน ตำรวจจับพิรุธได้เนื่องจากช่วงเวลาพบศพนายชลนที มีท่าทีลุกลี้ลุกลน
โดยเฉพาะช่วงที่กำลังตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสภาพศพ นายชลนที ได้เดินไปมา และพยายามพูดคุยกับชาวบ้าน และญาติผู้เสียชีวิต ว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตมากว่า 3 ปี ชื่นชมเพราะอัธยาศัยดี วันเกิดเหตุอยู่ด้วยกันที่ตลาดนัดโคกระบือ จากนั้นนัดกันมาดูวัวตนเองที่เลี้ยงไว้ ก่อนจะแยกย้ายกันไป ไม่รู้ว่าไปไหน ยังช่วยญาติๆ ตามหากระทั่งมาพบว่าถูกฆ่าตาย
ตำรวจเชิญตัวนายชลนที มาเค้นสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง กระทั่งยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ล่อลวงนายเหรียญ และนายปิยพงษ์ สองพ่อลูกมาให้เพื่อน ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติดสังหารอย่างโหดเหี้ยม ก่อนชิงเงิน 1 แสนบาท และสร้อยคอทองคำ 1 บาท
สอบสวนนายชลนที อ้างว่า ตนเองเป็นหนี้แก๊งคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ 3 หมื่นบาท กลุ่มนี้ขู่ฆ่า และบังคับได้ให้ตนไปปล้นธนาคารมาใช้หนี้ แต่ตนเองทำไม่ได้ จึงตกลงกันเลือกวิธีนี้ วันเกิดเหตุตนไปเจอกับทั้งสองพ่อลูกที่ตลาดนัดโค-กระบือจริง เห็นทั้งสองคนมีเงินติดตัว และเงินจากการขายวัวประมาณ จึงได้วางแผนหลอกให้มาดูวัวที่ตนเลี้ยงไว้ เพื่อตกลงซื้อขายกัน