นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. อิชิตัน กรุ๊ป หรือ ICHI กล่าวว่า ปี 2567 เป็นก้าวสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโต และแสดงถึงความเป็นนักสู้ของอิชิตัน ซึ่งประสบผลสำเร็จด้วยกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,306.3 ล้านบาท เติบโต 18.7% ของรายได้จากการขายรวมในปี 2567 ที่ทำได้ 8,594.4 ล้านบาท เติบโต 6.8% สะท้อนความเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มอย่างมั่นคง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ภายใต้แบรนด์ อิชิตัน กรีนที ที่เดินหน้าเติบโต ขณะที่แบรนด์ เย็นเย็น, ชาพรีเมียม ชิซึโอกะ และกลุ่มเครื่องดื่มนอน-ที เช่น น้ำด่างอิชิตัน, ตันซันซู และตันพาวเวอร์ สามารถส่งมอบคุณค่าความสดชื่น และดีต่อสุขภาพให้แก่ผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง รักษาอัตราการเติบโตได้ดีเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำด่างอิชิตันเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขึ้น 86.54% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะเดียวกัน ด้วยการวางแผนการผลิตอย่างรัดกุม สามารถรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปี 76% ประกอบกับการบริหารต้นทุนการผลิตอย่างเข้มข้น ส่งผลความสามารถการทำกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.7% ส่งผลให้กำไรสุทธิประจำปี 2567 มากถึง 1,306.3 ล้านบาท เติบโต 18.7% แม้ว่าในไตรมาส 4/2567 จะมีรายการพิเศษบันทึกปรับปรุงภาษีด้วยผลกระทบจากความแตกต่างทางภาษีของเงินลงทุนในการร่วมค้า 62.9 ล้านบาท และภาษีงวดก่อนที่บันทึกสูงไป (1.5) ล้านบาท (ซึ่งเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว) และไม่ได้ส่งผลต่อการดำเนินงานแต่อย่างใด
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเห็นชอบเสนอการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด จากงวดผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ต.ค. – 31 ธ.ค. 2567 จากกำไรสุทธิและกำไรสะสมในอัตรา 0.50 บาทต่อหุ้น (ทั้งนี้ เงินปันผลสำหรับงวดดังกล่าว จะยังไม่มีความแน่นอนจนกว่าจะได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568) ตอกย้ำ ICHI เป็นหุ้นปันผลที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดวันปิดสมุดพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 10 มี.ค. 2568 และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 พ.ค. 2568 นี้
ส่วนแผนดำเนินงานในปี 2568 ICHI จะเดินหน้ารักษาอัตราการเติบโตให้ได้ต่อเนื่อง จากศักยภาพการผลิตที่แข็งแกร่ง หลังติดตั้งเครื่องจักรไลน์การผลิตใหม่เพิ่ม โดยปัจจุบัน ICHI มี 8 ไลน์การผลิต ผลิตสินค้าได้ 1,700 ล้านขวดต่อปี เพื่อตอบสนองความต้องการในการออกสินค้าใหม่ และรองรับดีมานด์ของลูกค้า OEM ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ขณะที่ ‘น้ำด่างอิชิตัน’ จะเป็นสินค้าที่เติบโตโดดเด่นในกลุ่มสินค้านอน-ที โดยเฉพาะช่องทางขาย E-commerce ที่ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ทั้งหมดเพื่อสนับสนุนเป้าหมายปี 2568 แตะ 9,500 ล้านบาท