พริษฐ์ ชี้ปัญหาหลัก 2 ข้อ หลังร่วมดับไฟป่าดอยสะเก็ด เผยท้องถิ่นถูกล็อกใช้งบซื้อแค่ 4 ชนิด จ่อนำเรื่องเข้าสภา จี้รัฐลงทุนแก้ไฟป่าจริงจัง
เมื่อวันที่ 4 เมษายน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากร่วมดับไฟป่าที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยได้เปิดเผยถึงอุปสรรคในการเข้าพื้นที่ดับไฟป่า ที่พบหลังได้เข้าไปปฏิบัติจริง 2 ข้อ โดยระบุข้อความว่า
“ภารกิจดับไฟป่า : รัฐจำเป็นต้องลงทุนใน ‘เครื่องมือ’ และ ‘คน’ มากกว่าที่เป็นอยู่
วันนี้ ผมและ ส.ส. เชียงใหม่ พรรคประชาชน ได้เดินทางไปที่ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อสังเกตการณ์และสนับสนุนกลุ่มส้มสู้ไฟ อาสา และเจ้าหน้าที่ ในภารกิจดับไฟป่า
โดยสรุป ผมค้นพบว่าผู้ปฏิบัติหน้าที่หน้างาน ยังคงเผชิญกับ 2 อุปสรรคหลัก
– 1.1. รัฐยังไม่มีการจัดสรรงบประมาณเพียงพอให้กับอุปกรณ์ที่สำคัญ (เช่น โดรนจับความร้อน ซึ่งสำคัญมากต่อการวางแผนการลุยงานในพื้นที่อย่างตรงจุด) แต่กลับใช้งบประมาณไปกับการจัดสรรกับอุปกรณ์ที่ผู้ปฏิบัติงานสะท้อนว่าไม่ได้เป็นประโยชน์เท่าที่ควร (เช่น ไม้ตบไฟ)
– 1.2. รัฐยังไม่เปิดให้หน่วยงานหรือผู้ปฏิบัติงานในแต่ละพื้นที่ เป็นผู้กำหนดเองว่าอยากใช้งบประมาณไปกับอุปกรณ์อะไร – ท้องถิ่นเองก็ถูกล็อกว่าสามารถใช้งบกับอุปกรณ์ได้แค่ 4 ชนิด (คราด ไม้ตบไฟ ถังฉีดน้ำ เครื่องเป่าลม) แต่ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์นอกเหนือจากนั้นได้ (เช่น โดรน มอเตอร์ไซค์วิบาก)
– แม้ปีนี้มีการเพิ่มงบประมาณสำหรับการเพิ่มบุคลากรมาทำหน้าที่เป็นจุดเฝ้าระวัง แต่ :
– 2.1. งบดังกล่าวถูกจัดสรรมาสำหรับ 3 เดือน (ก.พ.-เม.ย.) จึงมีความกังวลว่าหากปีนี้ ไฟป่าลามไปถึง พ.ค. อาจเกิดข้อจำกัดเรื่องบุคลากรในการเฝ้าระวังได้
– 2.2. ผู้ปฏิบัติงานบางส่วนยังไม่ได้รับสวัสดิการสำคัญจากรัฐ (เช่น ประกันชีวิต)
การไปสำรวจปัญหาหน้างานในวันนี้ ทำให้เราได้เห็นถึงข้อจำกัดและความท้าทายที่บุคลากรเราต้องเผชิญในการดับไฟป่า อย่างชัดเจนขึ้น
ส.ส. พรรคประชาชน (โดยเฉพาะ ส.ส. Phattarapong Leelaphat – ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดมาต่อเนื่อง) จะเดินหน้าใช้กลไกทั้งในและนอกสภา เพื่อเสนอแนะรัฐบาลให้มีการลงทุนอย่างจริงจังกับเครื่องมือและกำลังคนที่จำเป็นในการแก้ปัญหาไฟป่าเพื่ออากาศที่ดีสำหรับคนไทย ทั้งเฉพาะหน้า และสำหรับงบประมาณในปีถัดๆไป”