ยอดดาวน์โหลด “Meta Llama” LLMs โอเพนซอร์สของ “Meta” ทะลุ 1 พันล้านครั้งทั่วโลก พร้อมเปิด 3 กรณีศึกษา ต่อยอดบริการด้วยโมเดล Meta Llama
รายงานข่าวจาก Meta ประเทศไทย เปิดเผยว่า “Meta Llama” (Large Language Model Meta AI) ชุดโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) หรือ AI ที่เชี่ยวชาญด้านการทำความเข้าใจและสร้างภาษา สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานสร้างสรรค์ได้หลากหลาย เช่น การเขียน การแปล การเขียนโค้ด การวิจัย และการสร้าง AI สร้างสถิติยอดดาวน์โหลดทั่วโลกทะลุ 1 พันล้านครั้ง
ปัจจุบัน Meta Llama เป็นโอเพนซอร์สที่เปิดให้ใช้งานฟรีทั้งด้านการวิจัยและการใช้งานเชิงพาณิชย์ ช่วยให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถเข้าถึงประโยชน์ของ AI ได้มากขึ้น โดย Meta รับฟังความเห็นจากนักพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงให้ความสำคัญกับความโปร่งใส ความสามารถในการปรับแต่ง และความปลอดภัยของโมเดลโอเพนซอร์ส
นับตั้งแต่เปิดตัว Llama ในปี 2566 มีองค์กรขนาดใหญ่ สตาร์ตอัพ องค์กรไม่แสวงผลกำไร ครีเอเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ หน่วยงานภาครัฐ และอื่น ๆ อีกมากมาย นำโมเดลและเครื่องมือของ Meta ไปใช้ในการสร้างนวัตกรรม ขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และปลดล็อกโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ เช่น
Spotify นำ Llama มาช่วยแนะนำเพลง ศิลปิน พอดแคสต์ หรือหนังสือเสียงใหม่ ๆ ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคล และสอดคล้องตามแต่ละสถานการณ์ รวมถึงนำความรู้รอบด้านและความยืดหยุ่นของ Llama มาผสานกับความเชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์เสียงของทางแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างคำอธิบายที่ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับฟัง และแนะนำให้ผู้ใช้ได้ค้นพบศิลปินและครีเอเตอร์ใหม่ ๆ
นอกจากนี้ Spotify ยังใช้ Llama เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการบรรยายแบบเรียลไทม์ที่ปรับแต่งเฉพาะบุคคลจาก AI DJ ช่วยให้แฟนเพลงเชื่อมต่อกับบทเพลงของศิลปินที่กำลังรับฟังได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ผู้ชนะการแข่งขัน Austin Llama Impact Hackathon ใช้ Llama เพื่อสร้างแอปพลิเคชั่น “Unveil” ที่ช่วยให้ผู้คนได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และธุรกิจในท้องถิ่นของเมืองออสติน ผ่านการวิเคราะห์ภาพและ AI การสนทนา โดยประมวลผลภาพที่ถ่ายหรืออัพโหลดเพื่อบอกชื่อของสถานที่สำคัญ เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ประติมากรรม หรือศิลปะบนถนน (Street Art) รวมถึงให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมด้วย
บริษัทสตาร์ตอัพ Fynopsis ในสหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายที่จะช่วยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางระดับล่างให้เติบโตได้โดยการอำนวยความสะดวกในการทำข้อตกลงการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการให้บริการ VDR (ห้องข้อมูลเสมือน) ที่ใช้ AI
ซึ่งบริษัทสามารถจัดเก็บและแชร์เอกสารที่ต้องรักษาความลับในขณะที่ดำเนินการตรวจสอบสถานะได้ พร้อมทั้งใช้ความสามารถด้านการใช้ภาษาและการตรวจจับข้อมูลจากภาพของ Llama 3.2 เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลผู้ใช้และกรอกเอกสารของรัฐได้อัตโนมัติ ช่วยให้กระบวนการทำงาน M&A ราบรื่นและอุดช่องโหว่เรื่องภาษาที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการทำข้อตกลง M&A
ตัวอย่างการประยุกต์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงพลังของ AI แบบโอเพนซอร์ส ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้แอปใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้มากขึ้น