"สวนกลาง" ลุยปราบนายทุนจีน ล้างบาง 15 บริษัทนอมินี รวบคนไทย-จีน 71 ราย ด้าน "ไซเบอร์ตำรวจ" บุกจับ "เอ็ม เอกชาติ" เอี่ยวเว็บพนัน-ฟอกเงิน พร้อมยึดทรัพย์ คุมตัวสอบเครียด
เมื่อวันที่ 27 มี.ค.68 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจสอบสวนกลาง กก.4 บก.ปอศ. ร่วมกันตรวจค้น 1.บริษัทบัญชีแห่งหนึ่ง พื้นที่ ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 2.บ้านเดี่ยว โครงการหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยดำเนินคดีบริษัท และ บุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1.นิติบุคคล จำนวน 15 บริษัท 2.บุคคลสัญชาติจีน จำนวน 21 ราย 3.บุคคลสัญชาติไทย จำนวน 51 ราย รายการตรวจยึด 1.โฉนดที่ดิน 5 ฉบับ 2.ตราประทับบริษัท จำนวน 332 อัน 3.เอกสารลูกค้าของบริษัท จำนวน 2 กล่อง 4.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับ บริษัท นอมินี ของนายลีฯ จำนวน 1 แฟ้ม 5.เอกสารขอ VISA และ WORK PERMIT จำนวน 16 รายการ ฐานความผิด “พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
สืบเนื่องจาก เมื่อต้นเดือน มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้เปิดปฏิบัติการ “CIB Game on” รื้อระบบสยบจีนดำ จับกุมตัวผู้ต้องหาชาวจีนชื่อ นายลีฯ ทำบัตรประชาชนเถื่อน และเป็นผู้ต้องหาตามหมายแดง (Red Notice) ก่อเหตุยักยอกทรัพย์ชาวจีน มูลค่าความเสียหาย 3,000 ล้านหยวน (ประมาณ 14,000 ล้านบาท) ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2564 และจัดตั้งบริษัท อันเจีย อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อหลอกลวงผู้เสียหายชาวจีน โดยอ้างว่าสามารถทำวีซ่า และบัตรประชาชนให้ได้ ซึ่งนายลีฯ ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จับกุมตัวและดำเนินคดีไว้ได้แล้วนั้น
จากการสืบสวนขยายผล ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปอศ. ทราบว่า บริษัทดังกล่าว มีพฤติกรรม นำชื่อคนไทยมาถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยไม่มีสถานที่ตั้งจริงตามที่จดทะเบียนไว้ และจากการตรวจสอบพบว่า บริษัท นอมินี ของนายลีฯ ได้ว่าจ้างบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นผู้รับจดทะเบียนและส่งงบการเงิน และจากการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีพฤติกรรมนำชื่อของกรรมการและบุคคลในครอบครัว ไปถือหุ้นในบริษัทชาวจีนอีกจำนวนมาก
นอกจากนี้ การตรวจค้น บ้านเดี่ยวในโครงการหรู ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ พบว่าถือกรรมสิทธิ์โดยบริษัทนอมินีจีน และยังพบว่าภายในโครงการหมู่บ้านหรูดังกล่าว มีบ้านที่ถือกรรมสิทธิ์โดยบริษัทนอมินีจีนอีก รวมจำนวน 5 หลัง มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจสอบบริษัทในเครือข่าย ซึ่งจดทะเบียนที่ตั้งอยู่ที่เดียวกัน รวม 17 บริษัท พบว่า เป็นคูหาร้างภายในตลาดแห่งหนึ่ง ย่านบางเสาธง โดยผู้ดูแลโครงการให้ข้อมูลว่าคูหาร้างดังกล่าว ไม่มีผู้ใดมาเช่าเพื่อดำเนินกิจการหรือตั้งเป็นสำนักงานบริษัท แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับนิติบุคคล จำนวน 15 บริษัท บุคคลสัญชาติจีน จำนวน 21 ราย บุคคลสัญชาติไทย จำนวน 51 ราย ในความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ สอท. เข้าจับกุม นายเอกชาติ มีพร้อม หรือ เอ็ม เอกชาติ อินฟลูเอนเซอร์สายรถแข่ง ตามหมายจับ ที่บ้านพัก ใน จ.จันทบุรี หลังพบว่า มีส่วนพัวพันเกี่ยวกับการฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์ และจะมีการสอบปากคำขยายผลว่ามีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยหรือไม่
เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ตรวจยึดทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ขณะที่เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ